IRPCร่วง4.88% เหตุรายย่อยรวมตัวให้จัดประชุมผู้ถือหุ้นชี้แจงเรื่องต่างๆ

          หุ้น IRPC ราคาร่วงลง 4.88% มาอยู่ที่ 5.85 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 249.67 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 5.75 บาท 
          นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) วันนี้ปรับตัวลง คาดว่าจะเป็นการรับผลจากกรณีที่จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงคดีความฟ้องร้องของบริษัทฯ ตามที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รวมตัวกันร้องขอให้มีการชี้แจง 
          นอกจากนี้ การที่ IRPC มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นกลุ่มของ PTT และ PTT ได้มีคดีเกิดขึ้นซึ่งถือได้ว่าเป็นคดีตัวอย่าง ทำให้บริษัทย่อยของ PTT คือ IRPC อาจต้องรับผลกระทบเชื่อมโยงในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปด้วย        
          เช้านี้ IRPC แจ้งว่า ตามที่กลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 25 ราย ซึ่งถือหุ้นนับรวมกัน 8,062,391,220 หุ้น คิดเป็น 41.35% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ได้มีหนังสือลงวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ถึงบริษัทฯ ร้องขอให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาในเรื่องต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ในการดำเนินกิจการของบริษัทฯ ดังนี้ พิจารณา รับทราบ กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา และให้คณะกรรมการชี้แจงเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ บางราย มีอยู่กับบริษัทฯ และผู้บริหารของบริษัทฯ ตลอดจนบรรดาคดีความที่มีการฟ้องร้องบริษัทฯ และผู้บริหาร และพิจารณาเรื่องกรรมการและอำนาจกรรมการ
          โดยคณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้อนุมัติให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 ในวันอังคารที่ 22 มกราคม 2551เวลา 14.30 นาฬิกา และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 ตั้งแต่เวลา 12.00 นาฬิกา ของวันพุธที่ 2 มกราคม 2551 เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 จะแล้วเสร็จ
          นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์เช้านี้ ระบุว่า IRPC ยังมีหุ้นอีกจำนวน 1,658 ล้านหุ้น หรือ 8.5% ที่ได้จัดสรรให้แก่เจ้าหนี้ตอนเพิ่มทุน ในส่วนนี้จะไม่มีเงื่อนไขกำกับ ดังนั้นตั้งแต่ 14 ธ.ค.50 เป็นต้นไป หุ้นล็อตนี้จะสามารถซื้อขายในตลาดได้ตามปกติ ซึ่งหุ้นส่วนนี้มีความเสี่ยงว่าอาจจะถูกขายเข้ามาในตลาดฯ
          สำหรับสัญญาณทางเทคนิคแสดงทิศทางถอย โดยมีแนวรับที่ 5.5 บาท แนวต้านที่ 6 บาท หากนักลงทุนต้องการจะซื้อให้ซื้อที่บริเวณแนวรับ