ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,695.35 จุด ลดลง 10.61 จุด (-0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 54,248.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,697.06 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,684.00 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 432 หลักทรัพย์ ลดลง 933 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 363 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง อ่อนกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะรีบาวด์กันแล้ว โดยเฉพาะตลาดในแถบเอเชียเหนือ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดช่วงบ่ายนี้ก็อยู่ในแดนบวกกัน ยกเว้นตลาดในกลุ่ม TIP ที่ปรับตัวลงราว 1% จากความกังวลวิกฤตค่าเงินในตุรกีที่อ่อนค่าเร็ว ซึ่งคงจะต้องจับตาดูว่าการอ่อนค่าของเงินตุรกีจะส่งผลให้เงินในเอเชียอ่อนค่าไปด้วยหรือไม่ และสถานการณ์ในตุรกีจะบานปลายหรือไม่
โดยบ้านเราเงินบาทไม่ควรจะอ่อนค่ากว่า 33.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ และดัชนีฯก็ไม่ควรจะหลุดแนว 1,680 จุด มิฉะนั้นตลาดฯจะมีความเสี่ยงมากขึ้น
พร้อมให้จับตาการประมูลคลื่น 1800 และ 900 MHz ในปลายสัปดาห์นี้ และในช่วงนี้ก็ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงโค้งสุดท้าย โดยมองว่าหลังจากจบเรื่องงบการเงิน คนก็จะหันกลับมามองประเด็นสงครามการค้าอีก
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705 จุด พร้อมให้จับตาวันนี้นักลงทุนต่างชาติจะหันมาขายหรือไม่ เพราะถ้าเริ่มขายนักลงทุนก็จะกลับมากังวลต่อทิศทางตลาดฯอีกครั้ง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,030.71 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,002.44 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,771.47 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,754.01 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,484.90 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง