นายสาคร สุขศรีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บง.กรุงเทพธนาทร (BFIT) เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทตั้งเป้าขยายสินเชื่อเติบโต 12% จากปี 50 ที่มีพอร์ตสินเชื่อ 3.5 พันล้านบาท โดยบริษัทจะหันมาปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพและเน้นด้านสินเชื่อรายย่อย จากเดิมที่เน้นการปล่อยสินเชื่อให้องค์กร ซึ่งทำให้สัดส่วนสินเชื่อรายย่อยปีนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 20-30% และในปีหน้าบริษัทก็จะหันมารุกการปล่อยสินเชื่อบุคคลผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้ามีส่วนต่างดอกเบี้ย(สเปรด)ไว้ที่ 1.5-2% จากปัจจุบันที่มีสเปรด 1.5% เพิ่มจากปี 49 ที่มีสเปรดเพียง 1% โดยการทำให้สเปรดเพิ่มจะเน้นบริหารเงินฝากที่มีอยู่ ให้เพียงพอต่อยอดเงินกู้ ขณะเดียวกันจะเน้นการบริการในความรวดเร็ว เพราะผู้กู้ไม่ได้ให้ความสนใจกับอัตราดอกเบี้ยมากนักเมื่อเทียบกับคุณภาพบริการ
ปัจจุบัน ฐานเงินฝาก BFIT อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท
"หากเรารักษาอัตราการเติบโตที่ 12% ในส่วนของสินเชื่อ เราก็พอใจ ถือเป็นนโยบายของบอร์ดที่จะมีอัตราการเติบโตในระดับดังกล่าวด้วย ไม่ว่าเป็นในส่วนสินทรัพย์รวม รายได้รวมและกำไรสุทธิ" นายสาคร กล่าว
บริษัทยังมีแผนลดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยมีเป้าหมายลดลงให้ต่ำกว่าปีนี้ที่มี NPL อยู่ในระดับ 4% ซึ่งหลังจากบริษัทปล่อยสินเขื่อที่มีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่ลูกหนี้ NPL หลายรายอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้
ส่วนการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์นั้น นายสาคร กล่าวว่า บริษัทยังคงไม่มีแผนและจะยังสภาพเช่นนี้ต่อไป เพราะปัจจุบันบริษัทมีฐานเงินกองทน 1.3 พันล้นบาท หรือ 23% ถือเป็นระดับที่แข็งแกร่งและเพียงพอในขยายธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า
"การหาพันธมิตรนั้น ที่ผ่านมาได้มาดูใครเป็นพิเศษ มีการพูดคุยกันหลายรูปแบบ เป็นรื่องที่ไม่ใช่สรุปได้เร็ว ๆ นี้"นายสาคร กล่าว
สำหรับพอร์ตลงทุนของบริษัทในปี 50 คาดว่าจะเติบโต 25% จากปี 49 ที่มีจำนวน 2 พันล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นสามัญ รวมถึงเงินลงทุนจากบริษัทต่าง ๆ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--