นายอภิชาติ การุณกรสกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอเซีย พรีซิชั่น (APCS) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 61 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าซึ่งคาดว่าจะเติบโตกว่า 5 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งนับจากนี้จะเห็นการปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ และงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคที่จะทยอยรับรู้รายได้ รวมทั้งจะเข้าไปประมูลงานใหม่ต่อเนื่องอีกมูลค่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะรู้ผลในไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสำคัญงานรับเหมาฯพลังงานทางเลือกกับกลุ่มลูกค้าเดิม ทั้งโซลาร์, โรงไฟฟ้าขยะ เนื่องจากความต้องการยังมีมาก รวมทั้งขยายงานด้านสถานีไฟฟ้า และระบบ Energy Storage กับเอกชนและหน่วยงานการไฟฟ้า ซึ่งจะสนับสนุนต่อการเพิ่มขึ้นของงานในมือ (Backlog) จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,001 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 63.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 50.6 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้ 995.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 99.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากธุรกิจยานยนต์ที่มีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดี จากการปรับกระบวนการผลิตชิ้นส่วนรูปแบบใหม่ทำให้มาร์จิ้นเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย ขณะที่งานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภค จากบริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด บริษัทย่อย APCS ในไตรมาสนี้มีการรับรู้การส่งงานและรับรู้รายได้ตามความคืบหน้างานโครงการงานออกแบบ จัดหาระบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบระบบในรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และเดินระบบโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอย อ่อนนุช ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ประมาณ 10% จากมูลค่าโครงการ 1,870 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ไปเรื่อยๆตามอายุสัญญา รวมทั้งงานอื่น ๆ สนับสนุน
นอกจากนี้ คณะกรรมการ APCS มีมติอนุมัติให้ บริษัท พีทู พรีซิชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (ถือหุ้นในสัดส่วน 100%) ลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ เพื่อผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนโลหะ
"เป็นอีกไตรมาสที่ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา และจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี เพราะมีทั้งงานในมือ และงานใหม่ ๆ ที่เข้าไปประมูลรับงานทั้งของภาครัฐและเอกชน เช่น งานร่วมกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จะเป็นการทยอยรับรู้ไปเรื่อย ๆ ต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบการก่อสร้างที่เริ่มก่อสร้างอาคารโครงสร้างได้เดินหน้า และที่ล่าสุดเราได้มาเป็นการเดินระบบ มูลค่างาน 3,543 ล้านบาท ขณะที่งานโซลาร์สหกรณ์ฯ ภาพรวมงานก่อสร้างเป็น 40% ตามแผนจะจ่ายไฟ ธ.ค.61 ซึ่งจะสนับสนุนต่อการเพิ่มรายได้และกำไรในอนาคตอย่างมีนัย"นายอภิชาติ กล่าว