นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า ผลดาเนินงานไตรมาส 2/61 บริษัทมีรายได้รวม 6,341.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และรายได้ที่ไม่ได้แบ่งตามสายธุรกิจ โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.7% และ 54.8% ตามลำดับ
สำหรับธุรกิจสายการบิน มีรายได้ลดลงในอัตรา 1.3% เป็นผลจากการแข่งขันที่รุนแรงส่งผลให้ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยลดลง 1.2% บริษัทฯ มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารต่อหน่วย (Passenger Yield) อยู่ที่ 4.14 บาท ซึ่งลดลงจากไตรมาส 2/60 ราว 2.4%
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/61 บริษัทฯมีผลขาดทุนสุทธิ 82.9 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 533.6 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 61 โดยบริษัท มีรายได้รวมอยู่ที่ 14,061.0 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 637.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 60 ขณะที่มีกำไรสุทธิ 627.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.8 ล้านบาท
นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 61 ว่า การเพิ่มขึ้นของรายได้เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจสายการบิน 2.3% และการเติบโตของธุรกิจสนามบินและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องยกเว้นธุรกิจให้บริการคลังสินค้าเพิ่มขึ้นในอัตรา 7.3% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบินเป็นผลมาจากจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเงินปันผลรับและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มมากขึ้น
ในไตรมาส 2/61 บริษัทฯ ได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางบินไป-กลับ ระหว่างกรุงเทพฯ--มัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) จากจำนวน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เพิ่มเป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และบริษัทฯ ได้เข้าร่วมทำสัญญาความตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare Agreement) เพิ่มเติมกับอีก 2 สายการบินชั้นนำคือ สายการบินโอมานแอร์และสายการบินลาว ส่งผลให้จำนวนสายการบินพันธมิตรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 26 สายการบิน
การเข้าร่วมเป็นสายการบินพันธมิตรกับสายการบินโอมานแอร์และสายการบินลาวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ลำปาง สุโขทัย ตราด สมุย และยังเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองสำคัญๆ ในประเทศลาว อาทิ เวียงจันทร์ หลวงพระบาง และปากเซอีกด้วย อีกทั้งการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ 26 สายการบินยังส่งผลให้อัตราส่วนรายได้จากช่องทางการขายแบบสายการบินพันธมิตรร่วม Codeshare และ Interline ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 23.0% ในไตรมาส 2/61 อีกด้วย
นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัลสายการบินแห่งภูมิภาคยอดเยี่ยมของโลกและรางวัลสายการบินแห่งภูมิภาคยอดเยี่ยมของเอเชีย จากการประกาศผลรางวัลสกายแทร็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ อวอร์ด ประจำปี 2561 (SKYTRAX World Airline Awards 2018) ซึ่งถือเป็นปีที่ 4 ที่บริษัทฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ติดต่อกัน โดยรางวัลนี้เป็นผลจากการสำรวจความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้าสายการบินต่างๆ ทั่วโลกเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2/61 บริษัทฯ ยังได้มีการพัฒนาเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเพิ่มช่องทางการชำระค่าบัตรโดยสารผ่าน 5 ช่องทางออนไลน์ใหม่ ได้แก่ Line Pay WeChat AliPay Union Pay และการแบ่งชำระกับบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารของสายการบินฯ