นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น (THMUI) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลงานปีนี้จะทำนิวไฮ โดยเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 35% เมื่อเทียบกับปี 2560 รายได้อยู่ที่ 387.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.34 ล้านบาท พร้อมกับรักษาอัตรากำไรขั้นต้นผลักดันให้อยู่ในระดับที่สูงถึง 40%
กลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเดินหน้ารุกธุรกิจลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้ว ซึ่งมีความต้องการในแทบทุกอุตสาหกรรม รองรับการขยายตัวของเศรษษฐกิจและการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน รวมทั้งแผนการติดตั้งเครื่องทดสอบแรงดึงขนาด 400 ตัน ทำให้บริษัทมีเครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ พร้อมขยายการให้บริการแก่ลูกค้าชั้นนำเพิ่มขึ้น
"THMUI มีจุดแข็ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วคุณภาพสูง จากแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก มีบริการตรวจสอบลวดสลิง มีสินค้าและบริการอื่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยธุรกิจจำหน่ายลวดสลิงยังเป็นธุรกิจหลัก ได้รับอานิสงส์จากแผนการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน ทำให้ความต้องการใช้สินค้าของบริษัทฯ มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/61 มีรายได้จากการขายและบริการ 236.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188.64% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 82.02 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 149.83 % เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2561 อยู่ที่ 94.76 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส เนื่องจากธุรกิจลวดสลิงและส่งมอบงานโครงการวางท่อประปาบางส่วน ที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา มูลค่ารวมประมาณ 165 ล้านบาท ได้ตามกำหนดในเดือนมิถุนายน 2561 ธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วเติบโต ทยอยรับรู้รายได้บางส่วนจากลูกค้าที่เซ็นสัญญาระยะยาว อีกทั้ง รายได้จากการให้บริการตรวจสอบลวดสลิง และบริการอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ในไตรมาส 2/61 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 52.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.03% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 31.47 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.34% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 38.37% เนื่องจากต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 16.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 654.59 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.18 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิยู่ที่ 6.95% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.66%
ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการ 331.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 81.31% กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 88.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 22.05 % และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.62% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 80.39% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.19%