SIRI จ่อคิวโอน 2 คอนโดฯใหม่หนุนงบฯ Q4/61 หวังแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นช่วยกระตุ้น,เผย H2/61 ทำยอดขายแล้ว 72%ของเป้าทั้งปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 15, 2018 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีแรงกระตุ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มเห็นทิศทางการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกค้าเร่งตัดสินใจโอนจากอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นอย่างชัดเจนในปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจ่อคิวโอนอีก 2 คอนโดมิเนียมใหม่ที่ใกล้แล้วเสร็จ ได้แก่ โครงการเดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา มูลค่า 2,900 ล้านบาท และโครงการเดอะ เบส การ์เดนท์ – พระราม 9 มูลค่า 2,300 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

รวมทั้งยังอยู่ระหว่างการทยอยโอน 2 โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่จะรับรู้กำไรทันที ได้แก่ เดอะไลน์ ราชเทวี มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ 100% รวมถึงการรับรู้กำไรจากการโอนโครงการ เดอะไลน์ วงศ์สว่าง มูลค่า 4,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จก่อนขายที่ได้เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งจะส่งผลดีต่อเนื่องในผลประกอบการของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้

ทั้งนี้ ปี 61 นับเป็นปีที่ลูกค้าให้การตอบรับที่ดีและเป็นปีที่บริษัทสามารถทำยอดขายได้สูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/61 ซึ่งบริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นถึง 162% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ยอดขายล่าสุดในเดือน ส.ค. บริษัทสามารถทำยอดขายรวมได้ถึง 32,500 ล้านบาท คิดเป็น 72% จากเป้ายอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 45,000 ล้านบาท

โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 10,862 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายโอนโครงการแนวราบประมาณ 75% และโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 25% โดยเป็นการโอนคอนโดมิเนียมต่อเนื่องจากปีก่อน 15 โครงการและคอนโดมิเนียมใหม่ที่เริ่มโอนในปี 61 ได้แก่ โครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี และ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง รวมถึงบริษัทยังมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสเพิ่มขึ้นอีก 18% มีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปี 664 ล้านบาทโดยมีกำไรจากโครงการภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอสเพิ่มขึ้น 16%

"การเติบโตของยอดขาย โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 นับเป็นการเติบโตที่น่าพอใจในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย โดยในกลุ่มคอนโดมิเนียม บริษัทมียอดขายเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนถึง 278% ประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการ "XT New Lifestyle Condominium" กวาดยอดขายมูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาทในช่วงเปิดตัวโครงการในทั้ง 3 ทำเล ได้แก่ โครงการ XT เอกมัย XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท มูลค่าโครงการรวมกว่า 21,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวโครงการที่มีมูลค่ารวมสูงสุดในประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแสนสิริ"นายวันจักร์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จจากคอนโดมิเนียมแสนสิริที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ โครงการ "เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต" และ "ดีคอนโด แคมปัส โดม-รังสิต" มีกระแสตอบรับที่ดีมากจนสามารถปิดการขายทันทีในวันแรกที่เปิดพรีเซล โครงการ "ลา กาซิตา" หัวหินมียอดขายแล้ว 95% โครงการ "เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา"ล่าสุดมียอดขายไปแล้วถึง 96 % จ่อคิวปิดการขายเร็วๆ นี้ ขณะที่ดีคอนโดหาดใหญ่ มียอดขายแล้วกว่า 60%

บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว "บ้านแสนสิริ พัฒนาการ" ด้วยจำนวนเพียง 36 ยูนิต บนที่ดิน 37 ไร่ ถนนพัฒนาการซอย 30 ทำเลศักยภาพ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individual) มียอดขายแล้วถึง 53% มูลค่ารวมกว่า 2,250 ล้านบาท หลังเปิดการขายในช่วงปลายเดือน มิ.ย. และโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริภายใต้แนวคิด "Portrait of Success ภาพของชีวิตที่ภาคภูมิ" ซึ่งมีระดับราคา 10 – 25 ล้านบาท และบุราสิริ ภายใต้แนวคิด "Find Your Peace of Mind บ้านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง" ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน อาทิ โครงการเศรษฐสิริ พหล – วัชรพล, เศรษฐสิริ บางนา และเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา รวมถึงโครงการบุราสิริ พัฒนาการ เป็นต้น

"ผลจากการรุกทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์ "สิริ เพลส" ยังส่งผลยอดขายทาวน์เฮาส์ของแสนสิริเติบโตขึ้นถึง 672% จากไตรมาสแรก จากการเปิดตัว สิริ เพลส 5 โครงการ 5 ทำเล ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และสร้างยอดขายได้ถึง 2,300 ล้านบาท ความสำเร็จมาจากการพัฒนาโครงการเพื่อตอบรับเทรนด์การอยู่อาศัยคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิดเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ และความโดดเด่นของโครงการทาวน์เฮาส์ภายใต้คอนเซ็ปต์ ขยายทุกความชอบให้เป็นไปได้ โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวทาวน์เฮาส์แบรนด์ สิริ เพลส อีก 2 โครงการใหม่ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ " นายวันจักร์ กล่าว

พร้อมกันนั้น ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทยังสามารถสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติได้ถึง 9,100 ล้านบาท คิดเป็น 70% จากเป้าหมายยอดขายตลาดต่างชาติที่ตั้งไว้ในปีนี้ 13,000 ล้านบาท จากการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยบริษัทเดียวที่เปิดการขายโครงการในต่างประเทศพร้อมกันในหลายประเทศ (Global Launch) และจัดกิจกรรมหลังการขายกับลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ