นางนิธิมา เทพวนังกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ปตท.จะบันทึกกำไรพิเศษจากการโอนทรัพย์สินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกให้กับบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ในไตรมาส 3/61 ซึ่งจะทำให้ปตท.ก็จะต้องเสียภาษีจากกำไรทึ่ขายสินทรัพย์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งการเสียภาษีเป็นการตั้งภาษีค้างจ่ายในทางบัญชีไว้ก่อนและจะจ่ายภาษีจริงในช่วงเดือน พ.ค.62 ซึ่งเป็นรอบการจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา
"เรามีการโอนทรัพย์สินให้กับ PTTOR ในต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา การขายสินทรัพย์ทำให้มีกำไร ซึ่งกำไรที่ได้ก็ต้องมาจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยเช่นกัน ส่วนกำไรหรือเสียภาษีเท่าไหร่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้"นางนิธิมา กล่าว
นางนิธิมา คาดว่า PTTOR จะสามารถยื่นแบบเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่การโอนสินทรัพย์ออกไปให้กับ PTTOR ก็จะทำให้สินทรัพย์ของปตท.น้อยลง แต่ก็เชื่อว่าปตท.จะได้ประโยชน์จากการกระจายหุ้น PTTOR ในอนาคตเข้ามาชดเชย
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTT กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการเพื่อนำหุ้น PTTOR เข้าตลาดหุ้นยังอยู่ในกระบวนการ ซึ่งก็จะยังดำเนินการตามแผนต่อไป
ทั้งนี้ นายเทวินทร์ เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าการโอนทรัพย์สินให้ PTTOR มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งหลังจากโอนทรัพย์สินแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็เตรียมจะยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้น IPO ในเดือน พ.ย. และคาดว่าจะนำหุ้น PTTOR เข้าตลาดหุ้นได้ในไตรมาส 2/62
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปีนี้ PTT มีกำไรสุทธิ 69,817 ล้านบาท ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายเทวินทร์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่ช่วงครึ่งแรกของปี 60 ปตท.มีกำไรจากการขายเงินลงทุนในกองทุนรวม EPIF ขณะเดียวกันยังได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนหลังจากที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง ขณะที่ช่วงครึ่งแรกปีนี้ตามงบรวมของ ปตท.มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนตามภาระเงินกู้ราว 2,200 ล้านบาท จากระดับกำไร 7,800 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ปตท.ก็ถูกชดเชยในด้านของรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นเมื่อแปลงเงินจากสกุลดอลลาร์มาเป็นบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 16% มาที่ระดับ 190,815 ล้านบาท ดังนั้น มองว่าผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อภาระเงินกู้ และในด้านรายได้และกำไรต่อ ปตท.นับว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ปัจจุบัน ตามงบรวมของ ปตท.มีภาระหนี้รวมประมาณ 500,000 ล้านบาท โดยประมาณ 60% เป็นหนี้สกุลเงินบาทและที่เหลือ 40% เป็นหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐ
นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่ม ปตท.มีกระแสเงินสดราว 395,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆตามแผน โดยเฉพาะในส่วนของ New S-Curve ซึ่งปัจจุบัน ปตท.ยังมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความคืบหน้าการสร้างโรงแรมราคาประหยัดในสถานีบริการน้ำมัน แม้จะยังไม่สรุปแผนที่ชัดเจนแต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการต่อด้วยแผนที่รัดกุม เพราะเห็นศักยภาพทางธุรกิจ โดยคาดว่าภายปีนี้น่าจะใกล้เคียงที่จะมีความชัดเจน
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม PTT กล่าวว่า สำหรับความสนใจในการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น ปัจจุบัน ปตท.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเรื่องการลงทุนซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าปตท.จะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ และจะร่วมกับพันธมิตรรายใดในการเข้าประมูล แม้ว่าขณะนี้จะได้เริ่มหารือกับพันธมิตรในต่างประเทศทั้งยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงพันธมิตรในไทยบ้างแล้วก็ตาม คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดก่อนยื่นประมูลโครงการในเดือนพ.ย.นี้
ส่วนการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามโครงการสมาร์ทซิตี้ ซึ่งจะมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านดิจิทัล พลังงาน การพัฒนาเชิงพาณิชย์นั้น ปตท.ก็ให้ความสนใจเนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งของปตท. ขณะที่ปตท.และรฟท.ก็เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหากมีความร่วมมือระหว่างกันก็จะเป็นแนวทางที่ดี แต่ทั้งนี้ ต้องรอโมเดลที่ชัดเจนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และรฟท.ด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 62