น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย 10% จากปีก่อนทำรายได้ 6.05 พันล้านบาท โดยคาดว่าผลประกอบการช่วงไตรมาส 4/61 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
ขณะที่บริษัทยังคงประมาณการรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) (ไม่รวมกลุ่ม HOP Inn) ของทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นราว 4% และคงเป้าอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในปีนี้อยู่ที่ 81-82%
ERW แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 29.57 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0118 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 57.44 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.023 บาท
น.ส.กันยะรัตน์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนปรับปรุงห้องพักโรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ราว 40% จากจำนวนห้องทั้งหมด 440 ห้อง ในช่วงไตรมาส 2-3/61 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย ทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือน ต.ค.61 ทันก่อนเข้าหน้าไฮซีซั่น
บริษัทยังคงเป้าหมายการเปิดโรงแรมปีนี้ 9 แห่ง โดยจะเปิดโรงแรมแห่งใหม่อีก 4 แห่งในช่วงที่เหลือของปี ได้แก่ โรงแรมโนโวเทล สุขุมวิท 4 จำนวน 185 ห้อง, ไอบิส สไตล์ สุขุมวิท 4 จำนวน 133 ห้อง, Hop Inn เชียงใหม่ 2 จำนวน 79 ห้องในเดือน ต.ค.61 และ HOP Inn ในประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 167 ห้อง ในเดือน ธ.ค.61 ทำให้สิ้นปี 61 บริษัทจะมีโรงแรมทั้งหมด 61 แห่ง จำนวนห้องรวมกว่า 8,485 ห้อง
อย่างไรก็ตาม การเปิดโรงแรมใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4/61 ดังกล่าวคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้เต็มที่ในปี 62 หลังจากสามารถดำเนินการได้เต็มปี (12 เดือน) โดยบริษัทมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพและเจาะกลุ่มเป้าหมายในฐานลูกค้าที่คุ้นเคย
น.ส.กันยะรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเชื่อว่าจะไม่กระทบกับผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากสัดส่วนรายได้ต่างประเทศค่อนข้างต่ำอย่างไม่มีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากฟิลิปปินส์เพียง 3% ขณะเดียวกันก็ไม่มีผลกระทบด้านการลงทุน จากบริษัทใช้สกุลเงินเปโซฟิลิปปินส์ในการกู้สถาบันการเงินเพื่อลงทุน