(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค คลายกังวลปัจจัยตปท.-ได้แรงหนุนจากสนช.ถอนเรื่องเสนอแก้กฎหมายกกต.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 17, 2018 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า ขานรับจีนและสหรัฐฯจะมีการเจรจาการค้ากันรอบใหม่ในปลายเดือนนี้ และยังคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในตุรกี ภายหลังจากที่กาตาร์ตกลงจะเข้าไปลงทุนในตุรกีด้วยวงเงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วยหลังคลายวิตกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี ยังมองปัจจัยต่างประเทศเป็นการคลายความกังวลเพียงแค่ชั่วคราว ซึ่งยังต้องติดตามผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะสำเร็จผลหรือไม่

ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีข่าวดีจากเรื่องที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอนข้อเสนอให้แก้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง เกี่ยวกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งยังคงเดินหน้าตามโรดแมพได้

อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงจะปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังปรับพอร์ตการลงทุน จากความไม่แน่นอนปัจจัยต่างประเทศ และการโยกไปลงทุนหุ้น A-Share ของจีน

พร้อมให้แนวรับ 1,665-1,670 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,558.73 จุด พุ่งขึ้น 396.32 จุด (+1.58%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,806.52 จุด เพิ่มขึ้น 32.41 จุด (+0.42%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,840.69 จุด เพิ่มขึ้น 22.32 จุด (+0.79%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 121.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 18.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 288.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 18.70 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 21.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.37 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ส.ค.61) 1,680.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด (+0.28%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,109.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ส.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ส.ค.61) ปิดที่ 65.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ส.ค.61) ที่ 7.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.18 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาคหลังมีแรงขายดอลล์ รับข่าวจีน-สหรัฐฯเจรจาการค้ารอบใหม่
  • ไอเอ็มเอฟแนะตุรกีดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเน้นสร้างเสถียรภาพ-ลดขาดดุลการค้า ช่วงสัมพันธ์ทวิภาคีกับสหรัฐคลอนแคลน ด้าน"กาตาร์"แสดงความจริงใจในฐานะชาติพันธมิตร ให้สัญญาลงทุนโดยตรง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะอาลีบาบาซื้อหุ้นยักษ์ใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสัญชาติตุรกี
  • รัฐบาลประกาศดันกฎหมายภาษีที่ดินผ่านสนช.ภายในรัฐบาลนี้ ส่วนระยะเวลาบังคับใช้อาจเลื่อนจากปี 2562 หลังผลสำรวจหน่วยงานท้องถิ่นยังไม่พร้อม ประเมินตลาดอสังหาฯปีนี้ยังขยายตัวดี คาดเติบโตระดับ 8.2%
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปี 2561 จะขยายตัวต่อเนื่องที่ 4.6% และตลอดทั้งปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นอยู่ที่ 4.6% ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวอยู่ที่ 3.9% เป็นผลจากแรงส่งของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งด้านการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ ที่จะช่วยให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีการปรับตัวดีขึ้น
  • รายงานข่าวสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำในประเทศผันผวน ปรับขึ้นลง 5 ครั้งตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็น โดยรวมแล้วปรับลดลง 150 บาท ส่งผลให้ทองคำแท่งรับซื้อ 18,550 บาท ขายออกบาทละ 18,650 บาท ราคาทองรูปพรรณรับซื้อ 18,222.32 บาท และขายออก 19,150 บาท ราคาทองคำต่างประเทศอยู่ที่ 1,179 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์
  • คลังฟุ้งเศรษฐกิจดีหนุนอสังหาริมทรัพย์โต คาดปีนี้อาจถึง 2 หลัก หลังครึ่งปีแรกโต 8.2% ระบุยังไม่กระตุ้นกำลังซื้อเพิ่ม เชื่อจิตวิทยาด้านดอกเบี้ยทำคนเร่งซื้อบ้าน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TOP (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า Consensus 93 บาท เก็งกำไรค่าการกลั่นปรับขึ้นยืนเหนือระดับ 8$/bbl เทียบกับค่าเฉลี่ยใน Q2/61 ที่ 4$/bbl คาดหนุนกำไรปกติ Q3/61 กลับมาเติบโต
  • BGRIM (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 29 บาท โครงการ Phu Yen เป็นโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มแห่งที่ 2 ที่ BGRIM ประกาศเข้าลงทุน คิดเป็นกำลังการผลิตส่วนเพิ่มตามสัดส่วน 206 MW มีแผนเปิดดำเนินงานภายใน 30 มิ.ย. 2562 และเป็น Upside ที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการ
  • JWD (หยวนต้า) "ซื้อ"เป้า 9 บาท ด้วย 3 หตุผล 1) คาดกำไรปกติ Q3/61 กลับมายืนที่ระดับ 55-60 ลบ.+/- อีกครั้งหลังรายได้จากธุรกิจที่ลงทุนไปก่อนหน้าเริ่มเห็นผล และมีลูกค้าใหม่เพิ่มหลายราย ทำให้ 2) คาดการณ์กำไรปีนี้มี Downside risk จำกัด ส่วนปีหน้ามีโอกาสปรับประมาณการขึ้น ขณะที่ 3) ราคาหุ้นปรับตัวลง 43.8% YTD สะท้อนกำไร H1/61 ที่อ่อนแอไปมากแล้ว กลายเป็นโอกาสของการเข้าสะสม หลังกลับมามีมุมมองบวกต่อ JWD อีกครั้งทั้งระยะสั้น กลาง และ ยาว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ