นายอมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก โดยการขยายไลน์ไปในธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้ คือเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อย คือ "ไรเซน เอนเนอร์จี" ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โดย AJA ถือหุ้น 45% ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการแท็กซี่วีไอพี ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ BYD e6 จำนวน 1,000 คัน ของกรมขนส่งทางบก โดยได้ส่งมอบรถจำนวน 101 คันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 476.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 19.90 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 227.50 ล้านบาท เป็นผลจากการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (VDC) จำนวน 43.02 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) แท็ปแล็ท และอุปกรณ์เสริมของบริษัทย่อย คือบริษัท สยามแอดวานซ์ อีเล็คทรอนิค จำกัด ที่เริ่มดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ต้นทุนขายเท่ากับ 284.95 ล้านบาท คิดเป็น 67.86% ของรายได้จากการขาย โดยอัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายลดลง เนื่องจากบริษัทมีการกลับรายการตั้งสำรองมูลค่าลดลงของสินค้าคงเหลือ ประเภทสินค้ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล (SET TOP BOX) และเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทได้มีการจำหน่ายสินค้ากลุ่มดังกล่าว และมีการจัดงานแสดงสินค้า Expo อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งระบายสินค้าของบริษัท