นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่ง (สำนักงาน กสทช.) เป็นประธานชี้แจงกระบวนการและกฎการประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวให้แก่ผู้สื่อมวลชน (Press Tour) พร้อมพาชมสถานที่ประมูล และสาธิตการใช้งานซอฟท์แวร์เพื่อเสนอราคาประมูล ณ อาคารหอประชุมชั้น 1 สำนักงาน กสทช. ถนนพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) ทั้งนี้ การประมูลจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 19 ส.ค.นี้
นายก่อกิจ คาดว่าจะทราบผลการประมูลคลื่น 1800 MHz หลังเที่ยงวันของวันที่ 19 ส.ค.นี้ โดยเมื่อเสร็จสิ้นจบการเคาะการประมูลแล้วจะนำผลประมูลเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. พร้อมประกาศว่ารายใดประมูลได้กี่ใบอนุญาตและจัดให้มีการเลือกชุดคลื่นความถี่ โดยผู้ที่ประมูลจำนวนเงินที่สูงกว่าจะได้สิทธิเลือกก่อน
"บอร์ด กสทช.จะมารับทราบผลประมูล จะประกาศว่าใครได้กี่ล็อตและเลือกย่านความถี่ไหน น่าจะไม่นาน ไม่น่าจะเกินเที่ยงครึ่ง"รองเลขาธิการ กสทช.กล่าว
ทั้งนี้ การประมูลคลื่นคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 9 ใบอนุญาต แต่ละใบอนุญาตมีจำนวน 5 MHz เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.หลังจากผู้ร่วมประมูลได้ log in ในเวลา 9.40 น.โดยใช้โปรแกรมการประมูลที่ปรากฎบนคู่มือ (Auction Sofware Manual) โดยรอบการประมูลช่วงแรก (Initial Phase) ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเคาะราคาขั้นต่ำที่ 12,486 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นรอบละ 25 ล้านบาท ทั้งนี้ ใช้เวลาการประมูลรอบละ 15 นาทีและ 5 นาทีสำหรับการประมวลผลและรายงานผล
ระหว่างการประมูลผู้เข้าร่วมประมูลมีสิทธิไม่เสนอราคา (Waiver) ได้ 3 ครั้งตลอดการประมูล แต่รอบแรกจะต้องกดเสนอราคาและไม่สามารถใช้ Waier ได้ โดยหากรอบแรกไม่เคาะราคาก็จะถูกริบหลักประกัน 2,500 ล้านบาทและพ้นสถานะผู้เข้าร่วมประมูลทันที
ขณะที่ในการประมูลรอบถัดไป หากผู้ที่เคาะราคาครั้งแรกไม่เสนอราคาเพิ่มและไม่มีผู้เสนอราคาแข่ง ถือว่าเป็น Auto Waier ก็ยังคงสถานะเข้าร่วมประมูลได้ แต่หากมีผู้เสนอราคาเหมือนกันเครื่องจะ random หาผู้ชนะในรอบนั้นๆ
ในรอบสุดท้าย (Final Phase) จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ชนะชั่วคราวไม่เสนอราคา และผู้ประมูลรายอื่นไม่เสนอราคาและไม่มี Waiver จะสิ้นสุดการประมูล
สำหรับสาระสำคัญของหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 1800 MHz กำหนดให้ประมูลคลื่นความถี่รวม 45 MHz โดยแบ่งออกเป็น 9 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 5 MHz ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถประมูลได้สูงสุด 4 ใบอนุญาต (20 MHz) ราคาเริ่มต้นการประมูลอยู่ที่ 12,486 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 25 ล้านบาท
ผู้เข้าร่วมการประมูลจะต้องวางหลักประกันการประมูล 2,500 ล้านบาท การชำระเงินแบ่งเป็น 3 งวด งวดแรกชำระ 50% ของราคาประมูลสูงสุด งวดที่ 2 ชำระ 25% ของราคาประมูลสูงสุด และงวดที่ 3 ชำระ 25% ของราคาประมูลสูงสุด กรณีผู้ชนะการประมูลไม่ชำระเงินค่าประมูลภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผล สำนักงาน กสทช. จะริบหลักประกันการประมูลจำนวน 2,500 ล้านบาท และผู้ชนะการประมูลต้องชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 1,875 ล้านบาทต่อหนึ่งใบอนุญาตที่ชนะการประมูล