บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTN) และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) เคาะประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ (MHz) จำนวน 2 ใบอนุญาต จากทั้งหมด 9 ใบอนุญาต ขนาดใบละ 5 MHz ที่ราคา 12,511 ล้านบาท/ใบ จากราคาขั้นต่ำที่ 12,486 ล้านบาท/ใบ
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz วันนี้ ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อไม่มีรายใดเคาะราคาประมูลอีก เมื่อเวลา 11.15 น. การประมูลวันนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.จากการเคาะราคา 2 ล็อต ในล็อต A และล็อต G โดยผู้เข้าประมูลเคาะราคาเริ่มต้นขั้นที่ใบละ 12,486 ล้านบาท และรอบที่ 2 ทั้ง 2 ล็อตเคาะราคาเพิ่มขึ้นอีก 25 ล้านบาทมาเป็นใบละ 12,511 ล้านบาท ต่อมารอบที่ 3 ไม่มีรายใดเสนอราคาเพิ่มขึ้น ทำให้ราคายืนเท่าเดิม และรอบที่ 4 ก็ไม่มีรายใดเสนอราคาอีก ดังนั้น จึงสิ้นสุดการประมูลด้วยราคาใบละ 12,511 ล้านบาท รวม 2 ใบเป็นจำนวนเงิน 25,022 ล้านบาท
ระหว่างนี้รอการประชุม กสทช.เพื่อรับรองผลการประมูล และให้ผู้ประมูลเลือกชุดคลื่นความถี่
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช.กำหนดหลักเกณฑ์การประมูลครั้งนี้ให้ผู้เข้าร่วมการประมูลจะต้องวางหลักประกันการประมูล 2,500 ล้านบาท ส่วนการชำระเงินแบ่งเป็น 3 งวด งวดแรกชำระ 50% ของราคาประมูลสูงสุด งวดที่ 2 ชำระ 25% ของราคาประมูลสูงสุด และงวดที่ 3 ชำระ 25% ของราคาประมูลสูงสุด
กรณีผู้ชนะการประมูลไม่ชำระเงินค่าประมูลภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผล สำนักงาน กสทช. จะริบหลักประกันการประมูลจำนวน 2,500 ล้านบาท และผู้ชนะการประมูลต้องชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 1,875 ล้านบาทต่อหนึ่งใบอนุญาตที่ชนะการประมูล
นายสุกิจ ประธานกรรมการ กสทช.แจ้งว่า การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz มีผู้ชนะประมูล Lot A ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) จำนวน 5 MHz ราคา 12,511 ล้านบาทและเลือกชุดคลื่นความถี่ 1740-1745/1835-1840 ส่วนบริษัทดีแทค ไตรเน็ต (DTN) เป็นผู้ชนะประมูล Lot G จำนวน 5 MHz ในราคา 12,511 ล้านบาท และเลือกชุดคลื่นความถี่ 1745-1750/1835-1840
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลชาธิการ กสทช. กล่าวว่า การประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz วันนี้เป็นที่น่าพอใจ เพราะมุลค่าการประมูลที่ได้ 2.5 กว่าหมื่นล้านบาท ก็ไม่ใช่น้อย
ส่วนคลื่นที่เหลือทั้งคลื่น 1800 MHz และ 900 MHzก็จะนำมาปรับแนวทางการประมูลโดยเฉพาะราคาเริ่มต้นว่าจะใช้ราคาประมูลครั้งสุดท้าย หรือราคาใดก็จะทำบทวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียนำเสนอต่อคณะกรรมการ กสทช. โดยการชำระเงินของการประมูลอาจยืดเวลาออกไป 5-6ปี ก็ได้เพื่อจูงใจให้เขาร่วมประมูล โดยการประมูลคลื่นวันนี้จะต้องชำระภายใน 3 ปี
"การจะลดราคา มันก็คงเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องวิเคราะห์หาข้อดีข้อเสียว่าจะทำยังไง"
นายฐากร กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการมีคลื่นความถี่เพียงพอในการใช้งาน 3G/4G แต่หากเข้ายุค 5G คลื่นความถี่จะไม่เพียงพอ และเป็นข้อห่วงใยที่จะต้องให้ไทยเข้าสู่ 5G ในปี 63 ถ้าไม่เช่นนั้น ระเทศไทยจะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่า AWN ได้คลื่น 1800 MHz จำนวน 5 MHz จากปัจจุบันมีอยู่ 15 MHz จะทำให้มีคลื่ดนรวม 20 MHz ทำให้สามารถใช้โครงข่ายได้เต็มประสิทธิภาพ เพียงพอรองรับลุกค้าของเอไอเอสทีมีจำนวนมาก
ขณะที่ ดีแทค ประมูลคลื่น 1800 MHz จำนวน 5 MHz ขณะที่มีคลื่นความถี่ 2300 MHz จำนวน 60 MHz แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงว่า ดีแทคจะสามารถรองรับการใช้งานลูกค้าคลื่น 1800/ 850 MHz ได้เพียงพอหรือไม่
อย่างไรก็ตาม มองว่าผู้ประกอบการน่ารอประมูลคลื่น 700 MHz ในอีก 2 ปีที่สามารถนำไปพัฒนา 5G ได้ โดยคลื่น 700 MHzมีอยู่ 45MHz
ด้านนายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) กล่าวว่า "คลื่น 1800 MHz ที่ได้จากการประมูลจะนำมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของลูกค้า 2G ที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก และรวมถึงการนำคลื่นความถี่ดังกล่าวมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายบริการ 4G ตอบสนองความต้องการการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่เติบโตอย่างรวดเร็ว"
"ดีแทคต้องขอขอบคุณรัฐบาล และ กสทช. สำหรับการจัดประมูลคลื่นความถี่ที่ประสบความสำเร็จโดยคำนึงถึงข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ดีแทคมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า กสทช. จะอนุมัติแผนมาตรการคุ้มครองลูกค้าใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ต้องแสดงความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการ และ กสทช. เพื่อไม่ให้ซิมดับและมีผลกระทบต่อการใช้งานของลูกค้า หลังจากสิ้นสุดสัมปทาน" นายลาร์ส กล่าว
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เอไอเอส กล่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (เอดับบลิวเอ็น) บริษัทในเครือเอไอเอส ซึ่งเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz และสามารถประมูลได้คลื่น 1800 MHz จำนวน 1 ใบอนุญาตจำนวน 5 MHz ด้วยมูลค่า 12,511 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯถือเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลไลฟ์ที่ถือครองคลื่นความถี่ที่ได้รับจาก กสทช.มากที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม รวมกับการใช้โรมมิ่งกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้มีคลื่นในการให้บริการมากถึง 60 MHz โดยเฉพาะคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่มีรวมกันถึง 20 MHz ทำให้ลูกค้ากว่า 40 ล้านเลขหมายทั่วประเทศได้รับประสบการณ์การใช้งานเพิ่มมากขึ้นในเรื่องคุณภาพทั้งบริการผ่านเสียง และบริการดาต้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามมาตรฐานเทคโนโลยี 4G ที่สำคัญเป็นการยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในประเทศไทย เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0
"การประมูลครั้งนี้ ทำให้เอไอเอสมีคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 20 MHz ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี 4G เพียงรายเดียวที่มีคลื่นความถี่ติดกันมากที่สุด ทำให้รองรับความเร็วของการใช้งานบริการดาต้าของลูกค้าผ่านโทรศัพท์มือถือสามารถรองรับในปริมาณที่มากขึ้นด้วยความเร็วที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในตลาด รวมทั้งยังสามารถสร้างโอกาสและเตรียมความพร้อมในการรองรับคลื่นความถี่ 5G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
อีกทั้งคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่บริษัทประมูลได้มานั้น มีความเหมาะสมและความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับการขยายความจุโครงข่ายเพื่อรองรับการเติบโตของ 4G โดยเป็นการเพิ่มช่องสัญญาณจากเดิม และใช้ได้กับอุปกรณ์โครงข่าย 4G บนคลื่น 1800 MHz ที่มีอยู่ ซึ่งช่วยให้บริษัทประหยัดงบประมาณการลงทุนในระยะยาว