หุ้น DTAC ราคาอ่อนตัวลง 1.59% มาอยู่ที่ 46.50 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 321.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.30 น. โดยเปิดตลาดที่ 47.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 47.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 45.75 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 MHz ได้น้อยกว่าที่เคจีไอฯคาดไว้ว่าจะได้ 2 ใบ โดย DTAC ประมูลแค่ 1 ชุดของคลื่น 1800 MHz จะส่งผลลบในระยะสั้นต่อบริษัท เนื่องจากสัมปทานของ DTAC จะหมดอายุในกลางเดือนกันยายน 2561 และสิทธิ์ในการใช้คลื่น 850 MHz (10 MHz) และ 1800 MHz (25 MHz) ก็จะหมดลงไปพร้อมกัน
ใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz ใบใหม่มีแค่ 5MHz เท่านั้น ดังนั้น จึงมองว่าการเปลี่ยนผ่านบริการจากคลื่นเก่าไปคลื่นใหม่จึงเป็นความท้าทาย ในขณะที่การขยายโครงข่ายคลื่น 2300 MHz ของบมจ.ทีโอที (TOT) ก็ยังไม่เสร็จ (DTAC มีสิทธิ์ใช้ 60% ของ 60 MHz)
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า DTAC ได้คลื่นกลับมาน้อยกว่าที่เสียไปจากการหมดสัมปทานอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการใช้คลื่น 2300 MHz ยังต้องใช้เวลาลงทุนอุปกรณ์ เกิดโอกาสเสียลูกค้าเพิ่มเติมในช่วงหมดสัมปทาน และการไม่มีคลื่น low band ทำให้เสียเปรียบด้านต้นทุน
พร้อมปรับราคาเหมาะสม DTAC ลงเป็น 45 บาทต่อหุ้น จาก 47 บาทต่อหุ้น การไม่ได้คลื่น 900 MHz กระทบต่อการเติบโตของรายได้ในสมมติฐานไม่มาก โดยประเมินกำไรปกติปี 2561 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+7.9% YoY) จึงแนะนำ "เก็งกำไร" เท่านั้น ขณะที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแล้วถึง 18% ในรอบ 7 วันทำการ น่าจะสะท้อนความคาดหวังเชิงบวกต่อต้นทุนคลื่นที่ไม่สูงนักไปแล้ว ระมัดระวังแรงขายทำกำไรสะท้อนผลการประมูลในวันนี้