นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST กล่าวว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (20-24 ส.ค.) คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,670-1,730 จุด ขณะที่ตลาดได้ผ่านช่วงปรับฐานไปแล้ว แต่ทิศทางยังเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะที่ขึ้นไม่มาก (Sideway up) เนื่องจากขาดเม็ดเงินใหม่ ๆ และมีปัจจัยที่ถ่วงตลาดอยู่ โดยเฉพาะสถานการณ์ของตุรกีกับสหรัฐฯ ที่จะยังเป็นตัวจำกัดแรงซื้ออยู่ แต่ก็มีปัจจัยบวก คือเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยของรัฐบาลและกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ส่วนอีกปัจจัยคือการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/61 ของไทยในวันนี้ (20 ส.ค.) และตัวเลขการส่งออกในวันที่ 21 ส.ค.
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่ต่างประเทศ เรื่องความขัดแย้งระหว่างตุรกีกับสหรัฐฯจะสร้างความผันผวนกับตลาด และการมีผลบังคับใช้ในการขึ้นภาษีนำเข้า 25% ของสหรัฐฯกับจีนในวันที่ 23 ส.ค. ที่จะถึงนี้ ในวงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญฯ ซึ่งมีแนวโน้มที่สหรัฐฯและจีน จะเปิดเจรจาการค้ารอบใหม่ อาจก่อนหรือหลังวันที่ 23 ส.ค. หากการเจรจาประสบผลสำเร็จจะเป็นผลบวกต่อตลาดมาก มีโอกาสได้เห็น SET Index ขึ้นไปที่ระดับ 1,750 จุด ได้ไม่ยาก รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน-ทองคำ-ทองแดง) ที่จะทะยานขึ้นหลังจากอ่อนตัวลงมาเพราะเรื่องสงครามการค้า
ส่วนปัจจัยในประเทศ คาดว่าภายในเดือน ส.ค. นี้น่าจะมีกำหนดเลือกตั้งที่แน่นอนออกมา โดยในวันที่ 21 ส.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นัดแรกเพื่อหารือเรื่องการทำไพรมารีโหวต ขณะที่รัฐบาลก็ยืนยันไม่เปลี่ยนกำหนดการหากมีการประกาศวันที่แน่นอนเมื่อใด คาดว่าจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องการลงทุนภาครัฐฯ เช่น นิคมฯ รับเหมาฯ ที่มองว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากกว่ากลุ่มอื่น
สำหรับ SET Index สัปดาห์ที่ผ่านมามีความผันผวนในระหว่างสัปดาห์ไม่มากนัก ช่วงต้นสัปดาห์เคลื่อนไหวในแดนลบจากเรื่องปัญหาเศรษฐกิจตุรกี แต่ตลาดดีดตัวกลับมายืนในแดนบวกได้ช่วงปลายสัปดาห์จากข่าวดีที่จีนกับสหรัฐฯ จะมีการเจรจาทางการค้ากัน แต่จะเห็นได้ว่าเงินลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียของนักลงทุนต่างประเทศยังคงเป็นการขายสุทธิ (Net sell) ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลต่อทิศทางตลาด เช่นเดียวกับประเทศไทยมีการขายทั้งหุ้น และ Futures ติดต่อกัน ดัชนีฯ เคลื่อนไหวแบบทรงตัว (Sideway) เพราะไม่มีเม็ดเงินใหม่ ๆ เข้ามาซื้ออย่างจริงจัง
"KTBST คาดการณ์กรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,670-1,730 จุด แนะนำเป็นการเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว เน้นลงทุนในกรอบสั้นจนกว่าดัชนีฯจะผ่าน 1,740 จุด ขึ้นไปได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ ได้แก่ หุ้นขนาดใหญ่อย่าง BEAUTY, KBANK , TOP, KTC, PTTGC และหุ้นขนาดกลาง-เล็กอย่าง WHA, BEM , EPG, TVO และ WORK" นายวิน กล่าว