AOT คาดออก TOR เชิญชวนประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ ก.ย.นี้,มั่นใจงวดปี 61 รายได้-กำไรทำนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 20, 2018 14:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ย.61 น่าจะได้ความชัดเจนการออกร่างหลักเกณฑ์เงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) หลังจากที่ปรึกษาอยู่ระหว่างศึกษาและวิเคราะห์โครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่าจะใช้รูปแบบใดในการเปิดประมูล และโครงการมีมูลค่าเท่าใด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป

"เราต้องการความรอบรอบ ออกเร็วแล้วไม่รอบคอบก็ไม่ทำให้เร็วขึ้น อาจช้าลงด้วยซ้ำ...ถ้าเอกสารทำมารอบคอบ การร้องเรียนน้อยก็ประมูลได้ แต่ถ้าเอกสารไม่รอบคอบแล้วโดนร้องเรียนก็ไม่แน่ใจถึงระยะเวลา เพราะการร้องเรียนเป็นปัจจัยที่คุมไม่ได้ เราจึงเลือกที่จะทำเอกสารให้รอบคอบ เพราะไม่ต้องไปเสี่ยงกับปัจจัยที่คุมไม่ได้มากนัก"นายนิตินัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ก่อนหน้านี้ นายนิตินัย คาดว่าสามารถเปิดร่าง TOR การสรรหาผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีรายใหม่ได้ภายในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.61 ซึ่งโครงการนี้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ)

นอกเหนือจากการศึกษาให้รอบคอบแล้ว ทอท.ยังต้องการรอการตอบรับของ บมจ.การบินไทย (THAI) ที่มีความประสงค์จะใช้พื้นที่อาคารผู้โดยสาร หลังที่ 2 (Terminal 2) เป็น TG Terminal สำหรับรองรับผู้โดยสารของการบินไทยที่มีกว่า 20 ล้านคน ว่าจะใช้พื้นที่เท่าไร เพราะ ทอท.ต้องการนำพื้นที่ภายใน Terminal 2 มารวมการประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีในคราวเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประมูลจะได้บริหารพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 รวมพื้นที่ร้านค้าปลีกที่ใช้อยู่ปจัจจุบัน และจะรวมพื้นที่อาคารแซทเทิลไลท์ และอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2

นายนิตินัย กล่าวว่า ระหว่างรอการประมูลที่ปรึกษางานออกแบบอาคารผู้โดยสาร หลังที่ 2 ซึ่งจะนำเสนอ TOR ประมูลดังกล่าวต่อบอร์ด ทอท. ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ และรอผู้บริหารคนใหม่ของการบินไทยที่จะเริ่มงานในต้น ก.ย.นี้ตัดสินใจด้วย ทั้งนี้เห็นว่าหากเปิดประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีคราวเดียวกันจะเป็นแนวทางที่คุ้มค่า เพราะหากได้ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีเป็นรายเดียวกันบริหารทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเป็นการบริหารพื้นที่ได้ง่ายกว่า

ทั้งนี้ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 รองรับผู้โดยสาร 45 ล้านคน/ปี อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 รองรับได้ 30 ล้านคน/ปี และอาคารแซทเทิลไลท์ 15 ล้านคน/ปี รวม 90 ล้านคน/ปี แต่ปัจจุบันอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีผู้โดยสารใช้บริการถึง 60 ล้านคน/ปี

นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเปิดประมูลสรรหาผู้ประกอบการดำเนินการในโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายในสิ้นปี 61 อย่างไรก็ตาม การประมูลดิวตี้ฟรีอาจจะปรับเรื่องระยะเวลาได้ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป แต่ต้องให้ได้ผู้ประกอบการทันเวลาที่กำหนด ขณะเดียวกัน โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 เปิดใช้กลางปี 63 ก็ยังพอมีเวลาให้ผู้ประกอบการได้บ้างที่จะเตรียมการในช่วง 2 ปี

อนึ่ง ที่ผ่านมามีหลายฝ่ายท้วงติงวิธีการคัดเลือกเอกชนเข้าดำเนินการดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยปัจจุบัน กลุ่มคิงเพาเวอร์เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ก.ย.63

นายนิตินัย กล่าวว่า หากได้ข้อชัดเจนในเดือน ก.ย.แล้วจะนำเสนอคณะกรรมการ ทอท. อนุมัติ และคาดใช้เวลา 1-2 เดือนพิจารณาก็คาดว่าจะทันตามกำหนดเวลาที่จะต้องได้ผู้ชนะประมูลภายในปลายปีนี้

*งวดปี 61 มั่นใจรายได้-กำไรทำนิวไฮ

นายนิตินัย กล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารในช่วงเดือน ก.ค.เติบโตเพียง 5% และตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.จนถึงปัจจุบันโตเพียง 2-3% คาดว่ารับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนลดลงหลังเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่มองว่าเป็นปัญหาระยะสั้น เนื่องจาก ทอท.ยังคาดว่าอัตราเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในงวดปีนี้น่าจะเติบโตได้ถึงราว 8% และเชื่อมั่นว่าในงวดปี 61 รายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุด โดยกำไรน่าจะทำได้มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรกของงวดปี 61 (ต.ค.60-มิ.ย.61) จำนวนผู้โดยสารเติบโต 9.5-9.7% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 9-10%

"ต่อให้ผู้โดยสารปีนี้น้อยกว่าเป้าที่ 9-10% อาจจะโต 8% แต่เราไม่ปรับเป้าหมาย เพราะปีนี้เราทำนิวไฮ เพราะในงวด 9 เดือน กำไรก็ใกล้กับปี 60 ก็เขื่อว่าปีนี้น่าจะมากกว่าปีที่แล้วที่มีกำไร 2 หมื่นล้านบาท" นายนิตินัย กล่าว

AOT รายงานผลประกอบการในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 มีกำไร 19,923.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,029.14 ล้านบาท หรือ 17.93% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการ 45,790.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,009.07 ล้านบาท หรือ 12.28% จากการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 2,869.12 ล้านบาทหรือ 12.46% และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 2,139.95 ล้านบาท หรือ 12.05% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินรวม 656,471 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.45% และจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมด 106.20 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.75%

*ชงครม.อนุมัติลงทุนขยาย 5 สนามบินกว่า 2 แสนลบ.

นายนิตินัย คาดว่าในเดือน ก.ย.นี้ กระทรวงคมนาคมน่าจะเสนอโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน 5 แห่งของ ทอท.รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาทให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ หลังจากที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ ทอท.ไปเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ 5 ท่าอากาศยานที่จะลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต

ส่วนวงเงินลงทุนใน 4 ท่าอากาศยานที่เพิ่งได้รับมอบจากกรมท่าอากาศยาน คือ ตาก อุดรธานี สกลนครและ ชุมพร คาดใช้เงินลงทุนปรับปรุงท่าอากาศยานรนาว 1.5-2.0 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดบริการหลังปรับปรุงได้ในไตรมาส 4/62 (ก.ค.-ก.ย.62) และคาดวาเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/63 (ต.ค.-ธ.ค.62)

ทั้งนี้ ทอท.คาดว่าท่าอากาศยานอุดรฯทำรายได้สูงมาก เพราะมีจำนวนผู้โดยสาร 2.5 ล้านคน/ปี และมีแนวโน้มขยาย 25-30% ประมาณ 5 แสนคน/ปี เพราะส่วนหนึ่งเป็นผู้โดยสารจากยุโรปที่บินเข้าท่าอากาศยานในกรุงเทพก่อนบินไปอุดรธานีประมาณ 3 แสนคน/ปี หากเปิดใช้บินตรงจากยุโรปมายังอุดรธานีก็จะมีรายได้ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารระหว่างประเทศ 700 บาท/คน/เที่ยว

สำหรับที่ดินเปล่าขนาด 723 ไร่ที่อยู่บริเวณถนนศรีวารีน้อย ใกล้พื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่ดินของ ทอท.เองนั้น นายนิตินัย กล่าวว่า ระหว่างนี้ได้มีการเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในการใช้ที่ดินในแปลงดังกล่าวอยู่หลายราย อาจจะไม่ต้องเปิดประมูล ซึ่งมีหลายรายนำเสนอโครงการ โดยมั่นใจว่าในช่วงต้นปี 62 น่าจะสรรหาเอกชนเข้าบริหารพื้นที่ดังกล่าวได้ โดยใช้พื้นที่ประมาณ 400-500 ไร่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ