TASCO ปรับลดเป้ายอดขายปีนี้หลังรับมอบน้ำมันดิบลดลง-ดีมานด์ตปท.ไม่เอื้อ,บันทึกค่าเสียหายไฟไหม้ใน Q3/61

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 20, 2018 14:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปรับเป้ายอดขายยางมะตอยปีนี้เหลือโตไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านตัน จากเดิมที่คาดว่าจะทำได้ 1.9 ล้านตันใกล้เคียงกับปีก่อน โดยในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำยอดขายยางมะตอยได้แล้วที่ 6.6 แสนตัน แต่เนื่องจากบริษัทรับมอบน้ำมันดิบได้น้อยลงทำให้เกิดผลกระทบต่อการใช้กำลังการผลิต ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกรับมอบเพียง 3 ลำเรือ จากปกติจะต้องรับมอบ 1 ลำเรือ/เดือน ประกอบกับความต้องการใช้ยางมะตอยในประเทศยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว ส่วนต่างประเทศ ยอดการใช้ยางมะตอยปรับตัวลดลงไปบางประเทศ เช่น ประเทศเวียดนาม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่ายอดขายยางมะตอยในประเทศน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/61 เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ เพราะภาครัฐจะเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณของปี 62 ในเดือน ต.ค. โดยเฉพาะกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ขณะเดียวกันตลาดต่างประเทศ ยอดขายก็น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น

ขณะที่การรับมอบน้ำมันดิบเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งปัจจุบันมีการรับมอบน้ำมันดิบในปีนี้เพิ่มเป็น 4 ลำเรือแล้ว และในครึ่งปีหลังนี้ก็จะรับมอบน้ำมันดิบเข้ามาเพิ่มเติมอีก 5 ลำเรือ ทำให้ทั้งปีจะมีการรับมอบน้ำมันดิบทั้งสิ้น 9 ลำเรือ ส่งผลดีต่อการกลับมาผลิตของโรงกลั่นยางมะตอยทำได้เต็มที่

รวมถึงราคายางมะตอยในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันราคายางมะตอยในตลาดภูมิภาคอยู่ที่ 400 เหรียญ/ตัน และราคายางมะตอยในประเทศจีนอยู่ที่ 380 เหรียญ/ตัน คาดว่าสิ้นปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 380-420 เหรียญ/ตัน

สำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บน้ำมันดิบของ KBC ในเมืองเคมามาน รัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย จำนวน 3 ถัง โดยมีปริมาณความจุ 1.01 แสนตัน ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บวัตถุดิบน้ำมันดิบลดลงมาที่ 6.35 แสนตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของทางการมาเลเซียเพื่อประเมินความเสียหาย แต่เบื้องต้นคาดมูลค่าความเสียหายจะอยู่ที่ 9.5 ล้านเหรียญฯ คาดว่าจะสามารถสรุปความเสียหายทั้งหมดได้ในเดือน ก.ย.นี้

พร้อมกันนี้ บริษัทจะมีการบันทึกความเสียหายดังกล่าวเข้ามาในไตรมาส 3/61 ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทให้พลิกกลับเป็นขาดทุนอย่างแน่นอน โดยการทำประกันจะครอบคลุมถึงผลกระทบต่อธุรกิจต่อการเกิดอุบัติเหตุนั้นๆ เป็นระยะเวลา 24 เดือน ซึ่งบริษัทน่าจะทยอยได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป

"เราอยู่ระหว่างติดต่อผู้รับเหมา เพื่อสร้างถังเก็บน้ำมันดิบทดแทนถังเก่าที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งรูปแบบการก่อสร้างจะต้องเป็นไปตามระเบียบใหม่ คาดว่าจะสรุปผู้รับเหมาได้ในเดือน ต.ค.นี้ โดยถังเก็บน้ำมัน 3 ถัง จะใช้เวลาก่อสร้าง 12-15 เดือน ส่วนฝาถังจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน"นายชัยวัฒน์ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าแผนการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตโรงกลั่นในประเทศมาเลเซีย จากเดิม 3 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 6 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดว่าจะสรุปได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งหากสามารถสรุปการลงทุนดังกล่าวได้ คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี ถึง 3 ปีครึ่ง และน่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 65 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ