นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) กล่าวว่า บริษัทฯ ปรับเป้าหมายยอดขาย หรือปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน ปีนี้ลดลงเหลือโต 17-18% จากเดิมที่คาดโตได้ 20-25% เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดยังคงฟื้นตัวได้ช้า โดยราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของเกษตรกรปรับตัวลดลง ทำให้ยอดขายต่อสาขาเติบโตลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายอดขายในครึ่งปีหลังนี้น่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกราว 3-5% จากไตรมาส 4/61 จะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจ
พร้อมกันนั้น บริษัทยังปรับลดเป้าหมายการขยายสถานีบริการน้ำมัน PT ในปีนี้ให้เป็น 1.9 พันสาขา จากเดิมที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งสิ้น 2 พันสาขา เนื่องด้วยบริษัทจะกลับมามุ่งเน้นการให้บริการสาขาที่มียอดขายเติบโตดี เพื่อบริหารจัดการต้นทุนให้ดีขึ้น โดยในครึ่งปีหลังนี้จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 15-20 สาขา/เดือน จากครึ่งปีแรกมีสาขาทั้งสิ้นแล้วจำนวน 1.8 พันสาขา
ส่วนธุรกิจ non-oil ยังตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะทำได้ 15-20% ตามการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยเพิ่มเป็น 180 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 165 สาขา และร้านสะดวกซื้อ Max Mart เพิ่มเป็น 160-170 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 140 สาขา ส่วนศูนย์ซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck จะเพิ่มเป็น 15 สาขา จากเดิมอยู่ที่ 11 สาขา และศูนย์ซ่อมสำหรับรถยนต์ Autobacs จะเพิ่มเป็น 10 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 7-8 สาขา โดยการเติบโตของศูนย์ซ่อมบำรุงฯ ในปีนี้คาดว่าจะเป็นตัวเลขสองหลัก หลังจากครึ่งปีแรกมีการเติบโตราว 4% ต่อสาขา โดยบริษัทวางงบลงทุนรวมปีนี้ไว้ที่ 4-4.5 พันล้านบาท
สำหรับแผนการออกหุ้นกู้มูลค่า 600-1,000 ล้านบาท ในปีนี้ บริษัทมองว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกหุ้นกู้ดังกล่าวแล้ว และน่าจะชะลอแผนออกไปก่อน เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นด้วยการปรับลดการขยายสาขาลง ทำให้ใช้เงินลงทุนไม่มาก จากเดิมที่วางงบลงทุนไว้ 4-5 พันล้านบาท มาเป็นใช้ไม่เกิน 4-4.5 พันล้านบาท
ด้านโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์แห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง PTG กับพันธมิตรอีก 2 ราย โดยเริ่มผลิตไบโอดีเซล หรือ B100 และน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค (โอเลอีน) ปัจจุบันได้มีการทดสอบการเดินเครื่องผลิตไปแล้ว 70% คาดว่าจะครบ 100% ในช่วงไตรมาส 4/61 ขณะที่ความคืบหน้าการเจรจาร่วมลงทุนในธุรกิจก๊าซหุงต้มในครัวเรือน (LPG) กับพันธมิตร บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มเห็นการลงทุนได้ในไตรมาส 4/61
"การปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้สอดคล้องกับราคาต้นทุนของตลาดโลก ยังคงเป็นความท้าทายในครึ่งปีหลัง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตเป็น 1.15 แสนล้านบาท หรือเติบโต 15-20% จากปีก่อน โดยบริษัทยังคงเป้าหมายในการมุ่งไปสู่ธุรกิจ non-oil เพื่อการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและสม่ำเสมอในระยะยาว รวมทั้งยังวางแผนจะขยายพันธมิตรในการทำธุรกิจ เพื่อสามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร"นายพิทักษ์ กล่าว
นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ จะดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาสถานีบริการน้ำมันในเฟสแรกราว 40 สาขา ภายหลังจากที่ได้มีการทดสอบการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาไปแล้วจำนวน 2 สาขา ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ราว 20-22% คาดว่าจะดำเนินการในเฟสแรกได้ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป และน่าจะใช้ระยะเวลาในการติดตั้งประมาณ 1 เดือน