(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันขึ้น-ลุ้นตัวเลขส่งออกไทย ,รอดูเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 22, 2018 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยตลาดฯมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้บ้างแต่ไปได้ไม่ไกล เนื่องจากยังต้องรอดูผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากผลการเจรจาการค้า

อย่างไรก็ดี คาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานเข้ามาบ้างหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวขึ้น พร้อมให้ติดตามตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.ของไทยในวันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% หากออกมาดีก็จะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มธนาคาร และหนุนตลาดฯได้

ทั้งนี้ ตลาดโดยรวมคาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,690-1,700 จุด แต่หากพ้นแนว 1,700 จุด ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,720 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,822.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.60 จุด (+0.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,862.96 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด (+0.21%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,859.17 จุด เพิ่มขึ้น 38.17 จุด (+0.49%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 50.31 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 83.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 1.96 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.62 จุด

ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์, ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลอัดฮา

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ส.ค.61) 1,694.63 จุด ลดลง 6.79 จุด (-0.40%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,614.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ส.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ส.ค.61) ปิดที่ 67.35 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ส.ค.61) ที่ 6.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.64 แข็งค่าจากเย็นวานนี้ จับตาตัวเลขส่งออก-นำเข้าของไทย มองกรอบ 32.60-32.80
  • เงินบาทพลิกแข็งค่าเร็ว 2 วัน พุ่ง 1.6% แตะระดับ 32.70 ต่อดอลลาร์ ชี้ผลจากเศรษฐกิจไทยโตเกินคาด-ดอลลาร์อ่อน ขณะ ธปท. ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย นักวิเคราะห์ฟันธงระยะสั้นยังแข็งต่อเนื่อง ด้าน "สมคิด" ลั่นเศรษฐกิจไทยพ้นภาวะถดถอยโดยสมบูรณ์ มั่นใจทั้งปีโตเกิน 4.5% ขณะ "ผู้ส่งออก" เชื่อบาทแข็งยังไม่กระทบส่งออก แต่จับตาการเคลื่อนไหวใกล้ชิด
  • พาณิชย์เผยการค้าไทยสองฝ่าย 17 ประเทศคู่เอฟทีเอ ครึ่งปีแรกเติบโต 14.24% อาเซียนนำโด่ง ตามด้วยจีนและญี่ปุ่น สวนกระแสค้าโลกเจอพิษสงครามการค้า โดยส่งออกจากไทยโต 13.29% แต่ไทยนำเข้าโต 15.20%
  • ครึ่งปีแรก 2561 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯมีทิศทางการขยายตัวที่ดี โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรม ยังมีความต้องการสูง ทำให้ค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมปริมาณขยายตัวเร็วกว่าความต้องการ ราคาจึงคงที่และไม่มีแนวโน้มลดลง โดยคาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯครึ่งปีหลังยังขยายตัว ตามคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 4.2%-4.8% จากครึ่งปีแรกขยายตัว 4.8% จึงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน เพิ่มความต้องการอสังหาริมทรัพย์
  • กองทุนอ้อยและน้ำตาลเตรียมจ่ายเงินคืนโรงงานน้ำตาล 22,000 ล้านบาทหลังผลประเมินราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 60/61 เหลือเพียง 772 บาทต่อตันอ้อย ขณะที่ราคาอ้อยขั้นต้นจ่ายไปถึง 880 บาทต่อตันอ้อย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GFPT (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้าสูงสุด Consensus 15 บาท เก็งกำไรราคาขายไก่ในประเทศฟื้นตัวล่าสุดปรับขึ้นสู่ระดับ 39 บาท/กก. เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับราคาขายเฉลี่ยในช่วงต้นปีที่ 32 บาท/กก. คาดหนุนกำไร Q3/61 โตต่อเนื่อง
  • CK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 34 บาท งานภาครัฐฯมีโอกาสเร่งอนุมัติมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี จาก H1/61 ที่ล่าช้าไปมาก เช่น ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง, รถไฟฟ้าสีม่วงใต้, มอเตอร์เวย์ 2 เส้น และรถไฟทางคู่ 9 เส้นทาง โดยคาดว่า CK จะได้รับงานเข้ามาเติมอย่างน้อย 3 หมื่นล้านบาท ด้านราคาหุ้นยัง Discount NAV ของบริษัทลูก (BEM, CKP, TTW) มากถึง 30%
  • PTTEP (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 159 บาท ได้รับผลบวกโดยตรง จากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น แนวโน้มราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 71-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง จากการลดปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปก รวมถึงการผลิตที่ลดลงจากเวเนซุเอลาและการแซงชั่นอิหร่าน พร้อมอยู่ระหว่างรอยื่นประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ โดยคาด PTTEP มีความได้เปรียบในการประมูลเนื่องจากเป็นผู้ประกอบการเดิม และเงื่อนไขการประมูลให้น้ำหนักกับความมั่นคงต่อเนื่องของการผลิตและการจ้างงานคนไทยด้วย และคาดผลการดำเนินงานปี 2561 จะยังคงโดดเด่น จากแนวโน้มราคาก๊าซและราคาน้ำมันที่ยังคงเพิ่มขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ