(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ แม้มองราคาน้ำมันขึ้นหนุนหุ้นพลังงาน-เศรษฐกิจไทยดี,จับตาเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 23, 2018 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคก็เคลื่อนไหวในกรอบที่ไม่มากนัก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณผ่านรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ว่าพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งเป็นส่งที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการที่สหรัฐจะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งมีจะผลในวันที่ 23 ส.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ออกมาดี ทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/61 และตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ค.ทำให้เริ่มมีมุมมองว่าทิศทางดอกเบี้ยในประเทศน่าจะสิ้นสุดขาลงและอาจจะค่อย ๆ ขยับขึ้นได้ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ก็น่าจะยังเป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีด้วย

นอกจากนี้แม้นักลงทุนต่างชาติจะยังมีทิศทางขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอยู่ แต่ก็เปิดสถานะ Long ในส่วนของ Futures ซึ่งอาจจะทำให้ Downside ของตลาดหุ้นน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด และภาพรวมยังเป็นลักษณะเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy)

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,692 และ 1,687 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,706-1,710 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,733.60 จุด ลดลง 88.69 จุด (-0.34%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,861.82 จุด ลดลง 1.14 จุด (-0.04%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,889.10 จุด เพิ่มขึ้น 29.92 จุด (+0.38%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 58.12 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.26 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 77.75 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 30.30 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.49 จุด ,ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 17.80 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 8.49 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ส.ค.61) ที่ระดับ 1,698.30 จุด เพิ่มขึ้น 3.67 จุด (+0.22%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 258.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ส.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ส.ค.61) ปิดที่ 67.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ส.ค.61) ที่ 6.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.78 แนวโน้มอ่อนค่า
  • แบงก์ผวาปัญหาตุรกีชะลอปล่อยกู้การค้า หวังปิดความเสี่ยง"ไทยพาณิชย์-เกียรตินาคิน"ยันไม่มีทั้งพอร์ตปล่อยกู้ หรือลงทุนผ่านกองทุนรวมในตุรกี เหตุพบสัญญาณความเสี่ยงเศรษฐกิจมาก่อนหน้านี้แล้ว
  • ตลาดหลักทรัพย์ออกรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวดครึ่งแรกปีนี้ กวาดกำไรสุทธิรวมกันกว่า 5.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่ยอดรายดีขึ้นแตะ 5.8 ล้านล้านบาท เผยราคาน้ำมันหนุน กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ส่วนเกษตร และอาหารยังแย่ เตือนรับมือราคาน้ำมันค่าเงินผันผวน พร้อมเร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันการซื้อขาย-โอนหุ้น บจ.นอกตลาดป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิชอบของผู้ไม่ประสงค์ดี ขณะที่ยังไม่พบการสร้างราคาหุ้น
  • "พาณิชย์"ปลื้มส่งออกเดือน ก.ค.โต 8.27% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ส่วนยอดรวม 7 เดือน เพิ่ม 10.57% ฟุ้งตลาดส่งออกขยายตัวแทบทุกตลาด ทั้งญี่ปุ่น อินเดีย อาเซียน CLMV แต่สหรัฐลด 1.9% เหตุเจอขึ้นภาษีนำเข้า มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า 8% ทำได้แน่ ด้านตลาดรถยนต์เดือน ก.ค.เพิ่มขึ้นกว่า 25%
  • รมว.อุตสาหกรรม เผยระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค.นี้ คณะรัฐบาลและนักธุรกิจจากจีนประมาณ 504 คน นำโดยนายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐของจีน จะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ วันที่ 24 ส.ค. จะร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 6 และร่วมสัมมนาวันที่ 25 ส.ค. คณะหวัง หย่ง พร้อมด้วยนักธุรกิจจากจีนมีกำหนดลงพื้นที่อีอีซี โดยจะลงนามบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู ร่วมกันทั้งรัฐและเอกชนประมาณ 17 ฉบับ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SVI (กรุงศรี) แนะ"ซื้อ"เป้าราคา 5.70 บาท มองค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าอีกครั้งคาดว่าจะส่งผลบวกต่อแรงเก็งกำไรในหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ โดยยังเลือก SVI เป็น Top pick จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตแรงในครึ่งปีหลังและในปีหน้า
  • PTTEP (ไอร่า) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมายที่ 159 บาท จากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบยังอยู่สูง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 73-74 เหรียญ/บาร์เรลใกล้จุดสูงสุดรอบ 3 ปีครึ่งจากการลดการผลิตกลุ่มโอเปก รวมถึงการผลิตที่ลดลงจากเวเนซุเอลาและการแซงชั่นอิหร่าน ขณะที่รอยื่นประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ ซึ่งคาด PTTEP มีความได้เปรียบจากเป็นผู้ประกอบการเดิม และเงื่อนไขประมูลให้น้ำหนักความมั่นคงต่อเนื่องของการผลิตและการจ้างงานคนไทย ส่วนผลงานปี 61 คาดว่าจะยังคงโดดเด่นจากแนวโน้มราคาก๊าซและราคาน้ำมันที่ยังคงเพิ่มขึ้น
  • AOT (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเหมาะสมที่ 77 บาท โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อความชัดเจนในการประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีที่สนามบินสุวรรณภูมิที่จะมีการออก TOR ภายใน ก.ย.นี้หลังล่าช้ามาโดยต่อเนื่อง ยังคาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลภายในปีนี้ได้ ด้านจำนวนผู้โดยสารที่ประเมินปีนี้จะเติบโต 8% ต่ำกว่าที่เราประเมินว่าจะเติบโต 9.5% จากผลกระทบนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัว แต่มองยังเป็นปัจจัยลบเพียงระยะสั้น และยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของ AOT จากภาพรวมการท่องเที่ยวที่เติบโต และ ยังมีแผนพัฒนาสนามบินเดิมและก่อสร้างสนามบินใหม่อย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ