นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือบมจ.ดุสิตธานี (DTC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงกับกลุ่มอัล มาจิด (Al Majed) เพื่อรับจ้างบริหาร โรงแรมดุสิต โดฮา ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งนับเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ดุสิตแห่งแรกในกาตาร์
"เรามีความยินดีที่จะประกาศเปิดตัวโรงแรมดุสิต โดฮา ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่สองในเครือ อัล มาจิด ที่มีการออกแบบให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของเมือง และตอบโจทย์สำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่"นางศุภจี กล่าว
สำหรับโรงแรมดุสิต โดฮา เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ตั้งอยู่ในย่านเวสต์เบย์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองโดฮา ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์นิทรรศการและศูนย์การประชุม, ตลาดเก่าแก่ซุก วากิฟ (Souq Waqif) หมู่บ้านวัฒนธรรมกาตารา (Katara Cultural Village) และเกาะสุดหรู เดอะ เพิร์ล (The Pearl) โดยอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติฮาหมัดเพียง 25 นาที
แนวคิดการออกแบบของโรงแรมดุสิต โดฮา จะเน้นการตกแต่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย โดยมีห้องพักทั้งหมด 357 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักในขนาดต่าง ๆ รวม 261 ห้อง และห้องพักสไตล์อพาร์ทเม้นท์สำหรับการเข้าพักระยะยาวอีก 96 ห้อง ซึ่งห้องพักแต่ละประเภทมีขนาดไม่ต่ำกว่า 41 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเขตเวสต์เบย์
นายอาห์เหม็ด มาห์ดี อัล มาจิด กลุ่มอัล มาจิด กล่าวว่า กาตาร์กำลังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึง 2 ครั้ง ได้แก่ การแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2564 (FIFA World Cup 2022) ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหล่มาชมการแข่งขันถึง 1 ล้านคน รวมทั้งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ปี 2662 (World Athletic Championship 2019) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวดุสิต โดฮา โรงแรมหรูแห่งแรกในกาตาร์ที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทย
"เราหวังว่า จะได้ต้อนรับลูกค้า ผู้จัดงาน และผู้สนับสนุนที่มาร่วมงานดังกล่าว และทำให้พวกเขาได้รับประสบการณ์การพักผ่อนที่แสนประทับใจ ซึ่งทางเรากับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล นั้นมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน และเราเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการของดุสิต เราจึงตัดสินใจร่วมงานกับดุสิตในโครงการนี้"นายอาห์เหม็ด กล่าว
ปัจจุบัน ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล บริหารโรงแรมทั้งหมด 27 แห่ง รวม 4 แบรนด์ ใน 8 ประเทศ และกำลังขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวโรงแรมได้ถึง 50 แห่งทั่วโลกในอีก 3-4 ปี ข้างหน้านี้