นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ราว 10-15% เป็น 1.6-1.8 หมื่นล้านบาทจากปีก่อน หลังจากครึ่งปีแรกมีรายได้แล้วราว 6.5 พันล้านบาท ขณะที่มองแนวโน้มครึ่งปีหลังนี้ก็น่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของทุกธุรกิจ ทั้งกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ, ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ ,ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การบริหารทรัพยากรน้ำ และโลจิสติกส์
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ (กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง) ยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยคาดดัชนีบอลติค (BDI) จะปรับตัวสูงขึ้นไปจนถึงปีหน้า จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 1,735 จุด เนื่องจากความต้องการด้านการขนส่งทางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันกองเรือในตลาดยังมีจำกัด ซึ่งมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือที่กลุ่มธุรกิจเป็นเจ้าของอยู่ในระดับสูงที่ 100% รวมถึงมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการซื้อเรือใหม่เพิ่มเติมอีก จากปัจจุบันที่มีเรือทั้งสิ้น 21 ลำ โดยปีนี้มีแผนซื้อเรือ 2 ลำ และขายออกจำนวน 2 ลำ
กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (เมอร์เมด มาริไทม์) ปัจจุบันมีมูลค่าสัญญาให้บริการรอส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ 165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้เกือบ 40% ขณะเดียวกันจะมีไม่การนำเรือเข้าซ่อมในช่วงที่เหลือของปี อีกทั้งบริษัทก็อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทที่ให้บริการนอกชายฝั่งในอ่าวไทย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในขณะนี้ได้
ด้านกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรในครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เป็นไปตามปริมาณการขายปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการให้บริการพื้นที่เช่าโรงงาน โดยมีอัตราการใช้ประโยชน์ของพื้นที่โรงงานให้เช่าอยู่ที่ 100% ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อรายได้จากการให้เช่าพื้นที่โรงงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลุ่มการลงทุนอื่น ๆ แบ่งเป็น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ปัจจุบันมีสาขาพิซซ่าฮัทแล้วจำนวน 121 สาขา และเตรียมเปิดสาขาทาโก้เบลล์ (Taco Bell) ซึ่งเป็นร้านอาหารเม็กซิกัน เป็นสาขาแรกในปลายปีนี้จำนวน 1 สาขา
ส่วนธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำ และโลจิสติกส์ ล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 80% ของบริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (AIM) โดยมั่นใจว่าธุรกิจนี้จะไปได้ดีในอนาคต โดยเตรียมเข้าประมูลงานของการประปานครหลวง ในโครงการมหาสวัสดิ์ มูลค่าราว 4 พันล้านบาท คาดว่าน่าจะเปิดประมูลงานดังกล่าวได้ในปี 62
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1.5 พันล้านบาท โดยที่ผ่านมาใช้ไปแล้วราว 1.1 พันล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อเรือ 900 ล้านบาท และการลงทุนเข้าซื้อหุ้นใน AIM จำนวน 200 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงมองหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต