บมจ. เอสไอเอสบี (SISB) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 22 ส.ค.61 เพื่อเสนอขายหุ้นสมัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายประชาชน 234 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 26 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับการศึกษา และใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน
SISB เป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนในระบบตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน ประเภทโรงเรียนนานาชาติ และให้บริการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยบริษัทเป็นผู้เริ่มนำหลักสูตรการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มาใช้เป็นหลักสูตรพื้นฐานในการจัดเรียนการสอน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
บริษัทเริ่มต้นจัดตั้งโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ แห่งแรกขึ้นในปี 2544 ต่อมาบริษัทฯ ได้ขยายการประกอบธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดเพิ่มเติม ปัจจุบัน บริษัทมีโรงเรียนนานาชาติที่เป็นผู้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงเรียนโดยตรงรวมทั้งหมด 4 โรงเรียน นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนในลักษณะกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับกลุ่มนักธุรกิจชาวเชียงใหม่ โดยได้จัดตั้งบริษัท เอสไอเอสบี สิริ จำกัด ขึ้นในปี 59 เพื่อประกอบธุรกิจเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เชียงใหม่ โดยได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเมื่อเดือน ธ.ค.59
ปัจจุบัน โรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัทฯ มีจำนวนทั้งหมด 5 โรงเรียน ซึ่งเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นก่อนประถมศึกษา (เตรียมอนุบาล) จนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถรองรับนักเรียนได้สูงสุดถึง 4,175 คน โดยมีทั้งโรงเรียนนานาชาติซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงเรียนโดยตรง และโรงเรียนนานาชาติซึ่งบริษัท เอสไอเอสบี สิริ จำกัด (กิจการร่วมค้า) เป็นผู้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงเรียน
ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 470 ล้านบาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 340 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 680 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 470 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 940 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 ประกอบด้วย นายยิว ฮอค โคว ถือหุ้น 308,720,000 หุ้น คิดเป็น 45.40% หลังเสนอขาย IPO จะลดสัดส่นการถือหุ้นลงเหลือ 32.84%, นางสาววิลาวัณย์ แก้วกนกวิจิตร ถือหุ้น 272,000,000 หุ้น คิดเป็น 40% หลังเสนอขาย IPO จะลดสัดส่นการถือหุ้นลงเหลือ 28.94% และนางสาวนงค์นภา ทองมี ถือหุ้น 99,280,000 หุ้น คิดเป็น 14.60% หลังเสนอขาย IPO จะลดสัดส่นการถือหุ้นลงเหลือ 10.56%
ผลการดำเนินงานของบริษัท ในปี 58-60 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 543.92 ล้านบาท จำนวน 623.49 ล้านบาท และจำนวน 785.38 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโต 14.63% และ 25.97% โดยรายได้หลักของกลุ่มบริษัทฯ คือรายได้ค่าธรรมเนียมการศึกษา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของรายได้รวม ขณะที่มีผลกำไรสุทธิจำนวน 76.51 ล้านบาท จำนวน 84.73 ล้านบาท และจำนวน 59.60 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 14.07%, 13.59% และ 7.59% ตามลำดับ
สำหรับอัตรากำไรสุทธิในปี 59-60 ลดลงเป็นผลจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ มีการลงทุนเพื่อขยายกิจการโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น
ขณะที่งวดครึ่งแรกของปี 61 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,086.37 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,686.63 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 399.75 ล้านบาท รายได้รวม 465.68 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 406.33 ล้านบาท กำไรสุทธิ 57.70 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย