บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART) เตรียมบุคลากรและเทคโนโลยีเพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ จากล่าสุดรุกด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ หลังเซ็นสัญญาร่วมมือสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.)เพื่ออาศัยความช่วยเหลือและสนับสนุนนำไปสู่ธุรกิจพลังงานรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต เผยสนใจสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAMART กล่าวว่า ก้าวแรกบริษัทได้ศึกษาและวางแผนที่จะเข้าสู่ธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เนื่องจากมองเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมส่งออก และในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่ต้องใช้การฉายรังสีเพื่อฆ่าเชื้อในเวชภัณฑ์ เภสัชภัณฑ์ และ เนื้อเยื่อจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะใช้เงินลงทุนเพื่อสร้างโรงงาน 450 ล้านบาท พร้อมดำเนินการในปี 52 และตั้งเป้าระยะแรกจะมีรายได้ประมาณ 150-200 ล้านบาทต่อปี ส่วนพื้นที่ก่อสร้างโรงงานคาดอีก 1-2 เดือนจะสรุปได้
นอกจากนี้ยังมองขยายสู่ อุตสาหกรรมด้านอาหาร และ อุตสาหกรรมด้านอัญมณีอีกด้วย
"บริษัทถือเป็นเอกชนรายแรก มีความสนใจลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนใน 3 ธุรกิจ คือการฉายรังสีทางการแพทย์ การฉายรังสีฆ่าแมลงในสินค้าเกษตร และการฉายรังสีอัญมณีให้มีมูลค่าเพิ่ม ประมาณ 1 พันล้านบาท...ปกติธุรกิจฉายรังสีนิวเคลียร์มีมาร์จิ้นดี 3-4 ปีก็คุ้มทุนและอุตสาหกรรมกรรมยังมีการเติบโต" นายวัฒน์ชัย กล่าว
สำหรับทั้ง 3 ธุรกิจ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์และรายได้ที่จะได้รับ เบื้องต้นคาดว่าจะมีรายได้ 150-300 ล้านบาทต่อโครงการ
ทั้งนี้ นายวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า บริษัทเริ่มศึกษาความเป็นไปได้มา 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งเห็นโอกาสในการลงทุน ส่วนจะเริ่มธุรกิจใดต่อไปคงต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และบริษัทก็สนใจที่จะทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีโอกาสเติบโต และเป็นธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจหลัก ที่เชื่อว่าโอกาสของนิวเคลียร์ยังมีโอกาสเติบโตมาก
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--