ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ของ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ในวันนี้ ที่ประชุมอนุมัติการเข้าซื้อหุ้น บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) ด้วยคะแนนเสียง 1,215,705,257 เสียง คิดเป็น 99.98% ของเสียงทั้งหมด ขณะที่มีผู้ไม่เห็นด้วย 0.01% และงดออกเสียง 0.01%
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติการออกหุ้นกู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศในวงเงินรวมไม่เกิน 68,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ GPSC มีแผนจะซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมดภายใต้วงเงินรวมประมาณ 1.39 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าภายหลังการควบรวมกิจการเพิ่มเป็น 4,835 เมกะวัตต์ (MW)
นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC คาดว่าการเข้าซื้อหุ้นจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยภายหลังการเข้าซื้อกิจการบริษัทมีแนวคิดที่จะนำหุ้น GLOW ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้การทำงานมีการ Synergy ระหว่างกันมากขึ้น
"delist หุ้น GLOW เป็นแผนที่ต้องทำระยะยาว เพราะถ้าไม่ delist สิ่งที่เราเคลมว่าเป็น Synergy คงเกิดไม่ได้ เข้าไปทำงานร่วมกันไม่ได้ ตามหลักเพราะทำธุรกิจเหมือนกัน ถ้าเราไม่ delist คงจะเข้าไปร่วมมือกันลำบาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเป็นองค์กรใหญ่เหมือนกันก็คงต้องใช้ระยะเวลา"นายเติมชัย กล่าว
ด้านนางวนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและบัญชีองค์กร ของ GPSC กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมดคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งหลังจากได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันนี้แล้ว ก็นับว่าเป็นการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับในการเข้าซื้อหุ้น GLOW แล้วเสร็จ 1 เรื่อง ขณะที่ยังเหลืออีก 1 เรื่องคือการรอได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรื่องการควบรวมกิจการกับ GLOW ซึ่งคาดว่าจะได้รับการพิจารณาภายในกรอบ 90 วันนับจากวันที่ยื่นเอกสารไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากบริษัทสามารถปฎิบัติตามเงื่อนไขบังคับแล้วเสร็จ บริษัทก็พร้อมจะชำระเงินเพื่อเข้าซื้อหุ้น GLOW ส่วนแรกจาก Engie Global Development B.V. (Engie) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น GLOW จำนวน 69.11% ในวงเงินรวม 9.59 หมื่นล้านบาท ภายใน 7 วัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. หลังจากนั้นบริษัทจะยื่นความจำนงเพื่อทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดที่เหลือของ GLOW จำนวน 30.89% ภายใน 25-45 วัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
สำหรับวงเงินที่จะใช้ซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมดจะมาจากเงินกู้ระยะสั้น 1 ปี ซึ่งมาจากเงินกู้จากบมจ.ปตท. (PTT) และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) จำนวนรวม 3.5 หมื่นล้านบาท และกู้จากสถาบันการเงิน 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ,ธนาคารกรุงไทย (SCB) ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) รวมประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
นางวนิดา กล่าวว่า การกู้เงินระยะสั้นดังกล่าวก็จะทำให้บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มเป็น 4.4 เท่าในช่วงปลายปีนี้ หลังจากนั้นบริษัทจะดำเนินการปรับโครงสร้างทางการเงินด้วยการหาแหล่งเงินกู้ระยะยาว และการเพิ่มทุน โดยเบื้องต้นวันนี้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติการออกหุ้นกู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศในวงเงินรวมไม่เกิน 68,500 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทก็มีแผนจะเพิ่มทุนไม่เกิน 7.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนก็จะต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้นอีกครั้ง คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 62 ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้ D/E ลดลงมาเหลือระดับ 0.9 เท่า อยู่ในกรอบของบริษัทที่กำหนดไว้ว่าจะมี D/E ไม่เกิน 1 เท่า
ส่วนหากจะทำคำเสนอซื้อเพื่อนำหุ้น GLOW ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น เป็นเรื่องที่ GLOW จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเองต่อไป