บมจ.บี. กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ชี้แจงเงื่อนไขในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ขนาดกาลังการผลิตติดตั้งประมาณ 257 เมกะวัตต์ ตามที่ บริษัทได้ชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการที่บริษัทได้ดำเนินการให้ บริษัท บี.กริม รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ 2 จากัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท) เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม บริษัทขอเรียนชี้แจงเงื่อนไขในการเข้าลงทุนในโครงการในส่วนที่เป็นสาระสำคัญที่จะเป็นประโยชน์โดยสรุปเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
เพื่อสร้างโครงการให้เกิดประโยชน์ ความสาเร็จ ความมั่นคง และความเชื่อมั่นสูงสุดได้ตามนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้ บริษัทจึงได้เข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวโดยดำเนินการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ China Energy Engineering Group Shanxi Electric Power Engineering Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ China Energy Engineering Corporation Limited ("Energy China") ภายใต้บันทึกความเข้าใจ ที่ได้ลงนามร่วมกันระหว่างบริษัท และ Energy China ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559
ทั้งนี้ Energy China เป็นบรรษัทรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีความพร้อมทั้งทางด้านเทคโนโลยี และสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง และมีกิจการรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ (Engineering, Procurement and Construction) เป็นหนึ่งในธุรกิจหลัก Energy China มีความพร้อมด้านทุนจดทะเบียนบริษัทเป็นจานวน 128,000,000,000 บาท และมีสินทรัพย์ทั้งหมดจานวนประมาณ 1,606,000,000,000 บาท ภายใต้กรอบความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว บริษัทได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Right) ในการเข้าลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยที่บริษัทจะเข้าลงทุนโดยการเป็นเจ้าของโครงการ และ Energy China จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง
โครงการโรงไฟฟ้าโดยใช้ศักยภาพด้านเงินทุนและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งของ Energy China โดยจะมีเงื่อนไข ตามที่บริษัทได้รับจาก Energy China ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและนอกประเทศของบริษัท พร้อมทั้งเป็นการลดข้อจากัดและความเสี่ยงในการลงทุนและการพัฒนาโครงการ (Development and Construction Risk) ซึ่งโครงการที่บริษัทเข้าลงทุนในวิธีการดังกล่าวจะได้รับการรับประกันคุณภาพงาน รับรองประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า และมีกำหนดระยะเวลาการก่อสร้างที่แน่นอน พร้อมทั้ง มีข้อกาหนดการรับรองผลตอบแทนการลงทุนในจานวนที่ไม่น้อยกว่าที่บริษัทพิจารณาลงทุนอีกด้วย
สำหรับการเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวนั้น Energy China ได้มีการเชิญชวนให้บริษัทพิจารณาการเข้าลงทุนร่วมในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่าง ๆ กับ Truong Thanh Viet Nam Group Joint Stock Company (TTVN) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 โดยบริษัทได้ลงนามความเข้าใจเบื้องต้นร่วมกันที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ TTVN เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ของตนเองหลายโครงการ อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์แคทเฮียบ (Cat Hiep Solar Power Plant) ขนาด 50 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กวางฟู (Quang Phu Solar Power Plant) ขนาด 50 เมกะวัตต์ และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นินห์ทาน (Ninh Tan Solar Power Plant) ขนาด 25 เมกะวัตต์ เป็นต้น ภายหลังการพิจารณาโครงการที่นาเสนอโดย TTVN บริษัทพิจารณาเห็นสมควรเข้าร่วมการลงทุนร่วมกับ TTVN โครงการแรกในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน ซึ่งมีความพร้อมและ ศักยภาพสูงสุด
ในการพัฒนาโครงการดังกล่าว Energy China และ TTVN จะมีหน้าที่หลักในการดาเนินการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
• TTVN จะดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตและสัญญาต่าง ๆ อาทิ ใบอนุมัติในหลักการสำหรับการเข้าลงทุนจากหน่วยงานราชการประจำจังหวัด (In-Principal Approval for Investment from Provincial Authority) ใบรับรองการลงทุนจากกรมการลงทุน (Investment Registration Certificate from Department of Investment) รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA Report Approval) สัญญาเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Connection Agreement) และสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไฟฟ้า เป็นต้น
• Energy China จะมีหน้าที่รับผิดชอบการออกแบบและก่อสร้างทั้งหมดของโครงการ (Engineering, Procurement and Construction) รวมถึงหน้าที่ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ดำเนินการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จเพื่อให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date) ตามกำหนดภายใต้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2562
2. ดำเนินการพัฒนาและเลือกใช้เทคโนโลยีที่จาเป็นทาให้โครงการมีประสิทธิภาพของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Energy Output) ที่สูงกว่ามาตรฐานของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินโดยทั่วไปที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีปริมาตรความเข้มของแสงอาทิตย์เช่นเดียวกัน โดย Energy China รับรองการมีประสิทธิภาพที่ไม่น้อยกว่าจำนวนที่กำหนดซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนจากเงินลงทุนในส่วนทุน (EIRR) ของบริษัทมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 12
ในส่วนการเข้าลงทุน บริษัท (โดย บริษัท บี.กริม รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ 2 จำกัด) จะเข้าซื้อหุ้นของบริษัท ฟูเยี้ยน ทีทีพี จ็อยสต๊อก คอมพานี (Phu Yen TTP Joint Stock Company) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เป็นเจ้าของโครงการและดาเนินโครงการ ("บริษัทเจ้าของโครงการ") จาก TTVN จำนวน 80,000,000 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 80) ในมูลค่าเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) ของหุ้นดังกล่าว รวมค่าตอบแทนจำนวน 35,200,000 เหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นค่าตอบแทนส่วนแรกซึ่งชาระในวันที่บริษัทเข้าทาสัญญาซื้อขายหุ้นโดยมีการกาหนดหลักประกันสาหรับค่าตอบแทนส่วนแรกดังกล่าว และเมื่อบริษัทเจ้าของโครงการได้รับใบอนุญาตตามที่กำหนดครบถ้วน บริษัทก็จะชำระค่าตอบแทนในส่วนที่เหลือ ทั้งนี้ หาก TTVN ไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้แล้วเสร็จภายใน 30 พฤศจิกายน 2561 TTVN ก็จะต้องชำระค่าตอบแทนทั้งจำนวนคืนให้แก่บริษัทตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น
ในการเริ่มก่อสร้างพัฒนาโครงการนั้น บริษัทเจ้าของโครงการตกลงจะชำระค่าดำเนินโครงการให้แก่ Energy China จำนวนประมาณเพียง 25,000,000 เหรียญสหรัฐ (โดยชาระจากเงินค่าหุ้นของบริษัทเจ้าของโครงการ) โดยที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีแรกนับจากได้เริ่มก่อสร้างพัฒนาโครงการ Energy China จะจัดหาและบริหารจัดการแหล่งเงินทุนในการก่อสร้างโครงการส่วนสาคัญทั้งหมด เมื่อครบระยะเวลา 2 ปีนับจากวันที่เริ่มพัฒนาโครงการ บริษัทจะนาเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติเพื่อกาหนดค่าตอบแทนการดำเนินโครงการที่แน่นอน ส่วนที่เหลือที่บริษัทเจ้าของโครงการจะต้องชำระให้แก่ Energy China โดยจะพิจารณาจากผลประกอบการของโครงการ การรับประกันคุณภาพงาน การรับรองประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า ความสามารถในการทำการก่อสร้างที่แน่นอน พร้อมทั้งมีข้อกำหนดการได้รับผลตอบแทนการลงทุนจากเงินลงทุนในส่วนทุน (EIRR) ที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 ตามที่บริษัทพิจารณาลงทุน (ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่หลักในการดำเนินการของ Energy China ที่ระบุไว้ใน ข้อ ค. ดังกล่าวข้างต้น) ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว รวมถึงการคำนวณขนาดรายการของการเข้าพัฒนาโครงการของบริษัทต่อไป
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความสาเร็จในการพัฒนาโครงการ Energy China จะสามารถใช้สิทธิเสนอต่อ TTVN เพื่อขอเข้าร่วมลงทุนในบริษัทเจ้าของโครงการได้ร้อยละ 20 บนสัดส่วนหุ้นของ TTVN หลังจากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date) ตามที่กาหนดในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) ได้แล้ว
กรณีดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการของบริษัทได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าการพัฒนาโครงการภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์สูงสุดโดยที่ Energy China และ TTVN เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการดาเนินการร่วมกับบริษัทในการพัฒนาโครงการดังกล่าว อนึ่ง เพื่อเป็นการยืนยันถึงความร่วมมือในการพัฒนาการลงทุนด้านพลังงานที่สาคัญร่วมกันตามที่ระบุไว้ข้างต้น Mr.Wang Jianping ประธานบริษัท ผู้บริหารสูงสุดของ Energy China ซึ่งได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย พร้อมกับคณะของ ฯพณฯ Wang Yong มนตรีแห่งรัฐ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ 6 ระหว่าง 22 - 26 สิงหาคม 2561 ประธานบริษัท Energy China ได้พบกับบริษัทในวันที่ 24 สิงหาคม 2561 นี้ และได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงค์ต่อความร่วมมือพัฒนาโครงการพลังงานระดับภูมิภาคเอเชียที่จะมีขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่องระหว่าง บริษัท และ Energy China ซึ่งเป็นบรรษัทรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีความพร้อมสูงสุด ทั้งในด้านเทคโนโลยี และสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย