บมจ. โรงพยาบาลกรุงธน (KDH) แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรให้ โรงพยาบาลกรุงธน 1 และ โรงพยาบาลกรุงธน 2 ไม่เข้าร่วมเป็นสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป โดยพิจารณารายรับรายจ่ายเฉพาะงานโครงการประกันสังคม ตั้งแต่ปี 2547 ถึงไตรมาส 3 ของปี 2550 แล้วมีการขาดทุน แม้ว่าปี 2551 สำนักงานประกันสังคมจะเพิ่มเงินเหมาจ่ายให้อีกหัวละ 44 บาทต่อปีก็ยังคงขาดทุน เนื่องจากผู้ประกันตนใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและต้นทุนการรักษาพยาบาลยังสูงขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ผลกระทบในปี 2551 ถ้าเทียบรายได้เท่าปี 2550 รายได้จากโครงการประกันสังคมโรงพยาบาลกรุงธน 1 จะหายไปประมาณ 90 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 และโรงพยาบาลกรุงธน 2 จะหายไปประมาณ 25 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 4 ของรายรับทั้งหมด ซึ่งรายได้ประกันสังคมที่ขาดไปสามารถชดเชยได้ถ้าสามารถทำให้ผู้ป่วยทั่วไปมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเพียงกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ป่วยประกันสังคมที่เคยมาใช้บริการปี 2550 โดยโรงพยาบาลกรุงธน 1 จะให้การรักษาผู้ป่วยทั่วไปประเภทเดียว ส่วนโรงพยาบาลกรุงธน 2 จะให้การรักษาผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโครงการประกันสุขภาพ
สำหรับโรงพยาบาลกรุงธน 1 ได้ปรับปรุงสถานที่ให้บริการผู้ป่วยนอกเสร็จเรียบร้อยสามารถยกระดับบริการขึ้นได้อีกระดับหนึ่ง มีการขยายบริการด้านการรักษาเฉพาะโรค เพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย สำหรับโรงพยาบาลกรุงธน 2 เมื่อเลิกประกันสังคมแล้วจะทำให้มีสถานที่รับรองผู้ป่วยทั่วไปเพิ่มและให้บริการได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยศักยภาพของทำเล สถานที่ให้บริการและบุคลากรเดิมก่อนเลิกประกันสังคม โรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้อีกสองถึงสามเท่า ซึ่งการพัฒนาคุณภาพและระบบการตลาดที่ดีขึ้น เชื่อว่าจะมีผู้ป่วยทั่วไปมาใช้บริการและเกิดรายได้เพิ่มขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--