นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า บริษัทสนใจที่จะเข้าลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท Hess Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ หาก Hess Corp ประกาศขายออกมา โดยเฉพาะในแหล่งพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) แปลง A-18 ที่ Hess Corp ถือหุ้นร่วมกับกลุ่มเปโตรนาสฝ่ายละ 50% เนื่องจากเป็นพื้นที่เป้าหมายการลงทุนของปตท.สผ.อยู่แล้ว
"แหล่งของ Hess ในอ่าวไทยอยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยวกับที่เรามีอยู่ ซึ่งเรามีประสบการณ์อยู่แล้ว หากเขาประกาศขายเราก็สนใจ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน ตอนนี้ยัง to early"นายสมพร กล่าว
นายสมพร กล่าวว่า สำหรับการยื่นประมูลแหล่งปิโตรเลียมในตะวันออกกลางก่อนหน้านี้ บริษัทก็ยังอยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้า ส่วนการที่บมจ.ปตท. (PTT) ให้ความสนใจจะเข้าไปดูแหล่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่อลาสก้า เพื่อรองรับการจัดหา LNG ในระยะยาวนั้น บริษัทยังไม่ทราบรายละเอียด แต่โดยหลักการแล้วหากบริษัทแม่เข้าไปพิจารณาการลงทุนในพื้นที่ใดก็จะดึงบริษัทลูกเข้าไปร่วมด้วย
ด้านความคืบหน้าการยื่นประมูลแหล่งเอราวัณ และบงกช ในอ่าวไทย ที่จะหมดอายุในปี 65-66 นั้น ในส่วนของการประมูลแหล่งเอราวัณนั้นยังอยู่ระหว่างเจรจากับเชฟรอน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการเข้าประมูล แต่หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ บริษัทก็จะหาพันธมิตรรายอื่นเพื่อยื่นประมูลแหล่งเอราวัณต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนกำหนดที่ภาครัฐเปิดให้ยื่นประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 ในด้านปริมาณขายปิโตรเลียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/61 หลังได้เข้าซื้อหุ้นในแหล่งบงกชเพิ่มเป็น 66.67% แต่ในส่วนราคาขายผลิตภัณฑ์นั้นยังขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย ขณะที่ในด้านผลการดำเนินงานสุทธิก็ต้องพิจารณาผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ซึ่งหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นก็จะเป็นประโยชน์แก่บริษัท
สำหรับทั้งปี 61 คาดว่าปริมาณขายจะอยู่ที่ระดับ 3.1 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นปริมาณขายสุทธิเพิ่มเข้ามาหลังจากเข้าถือหุ้นเพิ่มในแหล่งบงกชและจากการขายแหล่งมอนทารา ในออสเตรเลีย ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้