นายสลิบ สูงสว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไฮโดรเทค (HYDRO) คาดว่า จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของบริษัทฯตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้ หลังจากบริษัทมีผลขาดทุนมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 โดยบริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานระบบน้ำประปา 18 โครงการ มูลค่าราว 14,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยหวังว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
และยังมีโครงการเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียอื่นๆอีกหลายโครงการมูลค่าราว 400-500 ล้านบาท โดยหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 350-400 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยเพิ่มงานในมือของบริษัทฯ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 720 ล้านบาท จะสามารถรับรู้เข้ามาเป้นรายได้ในช่วงที่เหลือของปลายปีนี้ 350 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ปี 62
"ช่วงที่ผ่านมาด้วยปริมาณงานที่ออกมาไม่มากนักส่งผลให้บริษัทฯไม่ได้มีการเติบโต แต่ในปีนี้ด้วยมูลค่างานที่ออกมาค่อนข้างมาก และบริษัทจะเน้นการเข้าประมูลงานใหม่ที่บริษัทฯมีความชำนาญ ใช้เวลาไม่นานในการดำเนินโครงการ ส่วนสุดท้ายคือคำนึงถึงมาร์จิ้นที่จะได้รับ ซึ่งจะส่งลผให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฟื้นกลับมาอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้บริษัทมีงานที่มาร์จิ้นไม่สูงนักและเป็นงานยากๆระดับประเทศทำงานดังกล่าวมีความล่าช้า ต้นทุนสูงขึ้น รวมไปถึงมาร์จิ้นต่ำ แต่งานในส่วนนี้หายไปหมดแล้ว"นายสลิบ กล่าว
สำหรับการเข้าลงทุนในธุรกิจขยะครบวงจรจะเริ่มรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นเข้ามาในบริษัทฯตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 328.2 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 84 ล้านบาท หลังจากรัฐบาลได้วางเป้าหมายให้การบริหารจัดการขยะเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งบริษัทฯจะเข้าประมูลงานไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของปริมาณงานที่จะได้นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้แข่งขันหลายๆรายด้วย จึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่างานจะได้มากน้อยเพียงได
"ในปีนี้จะเห็นว่าภาครัฐบาลเริ่มมาเอาจริงเอาจังกับการจัดการขยะ ซึ่งทาง SUGT มีความชำนาญ และที่ผ่านมาจะเห็นว่าผลประกอบการมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนี้ทาง SUGTH มีฐานทุนที่แข็งแรงขึ้น การรับงานต่างๆก็จะทำได้มากขึ้น ประกอบกับงานไม่ได้ยากการรับงานรับรู้รายได้สามารถเติบโตได้ทันที"นายสลิบ กล่าว
นายสลิบ กล่าวว่า เหตุที่บริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย C เป็นเพราะบริษัทฯมีฐานะการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้วหลังหักส่วนต่ำมูลค่าหุ้น โดยบริษัทรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งบริษัทมีผลขาดทุนมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัทฯมีฐานะทางการเงินไม่เข้มแข็ง บริษัทฯจึงได้มติเพิ่มทุนจดทะเบียน 200 ล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) และเสนอขาย 100 ล้านหุ้น ให้กับบุคคลในวงจำกัด 2 ราย เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งและพร้อมที่จะดำเนินกิจการต่อไป
บริษัทยังมองหาในธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนให้บริษัทฯมีธุรกิจที่ครบวงจรมากขึ้นจากธุรกิจที่บริษัทฯได้ดำเนินมาตั้งแต่อดีตนั้นคือรับก่อสร้างและรับบริหารจัดการงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาบริษัทฯเข้าไปซื้อหุ้นในสัดส่วน 66% ของบริษัท เอสยูทีจีโฮลดิ้ง จำกัด (SUTGH) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกธุรกิจเกี่ยวกับขยะครบวงจร
"สิ่งที่เป็นปัญหาของเรา เรารับทราบ ซึ่งจากการที่เราได้มีการเพิ่มทุน ทำให้เรามีฐานการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นได้ธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม ซึ่งอันนี้ก็จะทำให้บริษัทฯพร้อมที่จะกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้งซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียกกันว่า NEW HYDRO"นายสลิบ กล่าว