SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,721.32 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 27,922.15 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่คลายความกังวลสงครามการค้าหลังจากสหรัฐและเม็กซิโกบรรลุข้อตกลง ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าหนุนค่าเงิน Emerging Market แข็งค่าและผลักดันให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นด้วย รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม PTT ด้านแรงขายต่างชาติชะลอลงเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมการลงทุนด้วย อย่างไรก็ตามแม้มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่คาดดัชนีจะยังยืนบวกได้ต่อในภาคบ่าย ให้แนวรับ 1,717 จุด แนวต้าน 1,729 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,721.32 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 27,922.15 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,728.22 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,720.74 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ตอบรับข่าวสหรัฐและเม็กซิโกบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างกัน ทำให้ตลาดคาดหวังว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หรือสหรัฐกับยุโรป ก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงทางการค้าโลก รวมถึงการที่ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณจะปรับนโยบายค่าเงิน ซึ่งจะช่วยทำให้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐลดลงด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐกล่าวหาว่าจีนจงใจทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ การที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และหนุนให้สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) แข็งค่าขึ้น รวมถึงตลาดหุ้น Emerging Market ก็ขยับขึ้นกันถ้วนหน้า ตลอดจนการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่ายังส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ขยับขึ้น หนุนให้มีแรงซื้อในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหุ้นในกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ที่ปรับตัวขึ้นมาในวันนี้
ขณะเดียวกัน แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ชะลอตัวลง และนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ถือเงินสดค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ได้เข้ามาซื้อหุ้นต่อเนื่อง ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยผลักดันตลาดได้อยู่ ส่วนความคืบหน้าทางเมืองในประเทศที่จะเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น มองว่าไม่น่าเป็นประเด็นต่อตลาดมากนัก เพราะตลาดยังรอดูความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งภายในกำหนดเบื้องต้นช่วงเดือน ก.พ.หรือไม่
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่ายคาดว่าตลาดจะยังยืนอยู่ในแดนบวกได้ แม้จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาพอสมควรในช่วงเช้า โดยดัชนีพยายามที่จะยืนเหนือระดับ 1,720 จุด ซึ่งหากยืนได้ดัชนีจะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,729 จุด และแนวรับที่ 1,717 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,076.18 ล้านบาท ปิดที่ 52.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,731.36 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,725.84 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 0.10 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,377.59 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,148.37 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท