นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้ที่บริหาร บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 4.1 พันล้านบาทได้ทั้งหมดภายในปี 62 ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของบริษัทที่จะแก้ไขปัญหาตามกรอบระยะเวลา 12 เดือน นับจากเดือน ส.ค.61 เป็นต้นไป โดยบริษัทจะมีการเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ให้ติดลบและลดทุนจดทะเบียนลง รวมถึงการพิจารณารายการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยเพื่อให้รายได้เป็นไปอย่างยั่งยืน
"เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะดำเนินการได้ตามกรอบเวลา เนื่องจากตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นมา EBITDA กลับมาเป็นบวกแล้ว และกำไรขาดทุนสุทธิหลังหักเงินชดเชยต่างๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เหลือเพียงไม่กี่ล้านบาทแล้ว"นายอารักษ์ กล่าวชี้แจงการแนวทางแก้ไขสถานะทางธุรกิจหลังจากถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย C
ทั้งนี้ ปัจจุบัน NEWS มีทุนจดทะเบียน 5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทยอมรับว่าน่าจะยังมีผลขาดทุนสุทธิ หลังจากครึ่งปีแรกมีผลขาดทุน 173.20 ล้านบาท แต่ก็เป็นการขาดทุนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าผลขาดทุนทั้งปีนี้จะลดลงจากในปีก่อน เนื่องจากการควบคุมต้นทุนและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ปรับปรุงเทคโนโลยี
และเร่งพิจารณามาตรการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าใช้จ่ายสัมปทานใบอนุญาตทีวีดิจิทัล มูลค่า 1.31 พันล้านบาท ที่จะรับรู้ค่าใช้จ่ายฯ เข้ามาในไตรมาสละ 22 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ 240 ล้านบาทแล้ว, ค่าเช่า MUX จำนวน 36 ล้านบาทต่อปี ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในการเจรจาลดค่าใช้จ่ายดังกล่าว, ลดต้นทุนที่ไม่สามารถเพิ่มรายได้ เช่น รายการวิทยุ, การลด Contents ที่มีราคาแพง แต่ไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของรายได้ เช่น CNN แต่ความร่วมมืออื่น ๆ ยังมีอยู่ และลดพนักงานให้สอดคล้องกับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ดำเนินการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่รอบที่ 2
ส่วนแนวทางการจัดหารายได้เพิ่ม บริษัทก็มีแผนการขยายช่องทางการออกอากาศ ที่นอกเหนือจากช่องสปริงนิวส์ ไปสู่การออกอากาศในช่องอื่น หรือแพลตฟอร์มอื่น และปรับกลยุทธ์การจัดหารายได้ของกลุ่มบริษัท ในส่วนธุรกิจสื่อ โดยการจัดกิจกรรมเสริม เช่น สัมมนา อีเว้นท์ และช่องทางรายได้ที่ต่อเนื่องจากงานสัมมนาและอีเว้นท์ รวมถึงต่อยอดธุรกิจสื่อ new media และ Social network ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการจัดหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจสื่อ
ขณะเดียวกันในส่วนของงานไอที และชีวะอนามัย ก็ยังมีการเติบโตสอดคล้องไปกับเศรษฐกิจ โดยบริษัทมีแผนงานในการรับงานเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัท ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ก็คาดว่ารายได้น่าจะเติบโตเป็น 500 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 273.22 ล้านบาท
"เราได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมานานแล้ว เราก็ประกาศว่าเราจะเข้าไปอยู่ในดิจิทัลมีเดียให้มากขึ้น และเราก็ทำมา 3 ปีแล้ว และก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น รวมถึงในส่วนอื่น ๆ เช่น การจัดสัมมนา และการจัดงานอีเว้นท์ต่าง ๆ เราก็จะหาช่องทางอื่นที่เข้ามาเสริม อย่างการทำช็อปปิ้ง On-air หรือช็อปปิ้งออนไลน์ และการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งวันนี้เราได้หุ้นส่วนทางธุรกิจค่อนข้างเข้มแข็ง คือ ทีวีไดเร็ค ทำให้สามารถเพิ่มรายได้ที่เป็นรายได้แน่นอนให้กับกลุ่มสปริงนิวส์ ซึ่งต่อเดือนมีรายได้ถึง 10 ล้านบาท และต่อปีมีรายได้ 130 กว่าล้านบาท"