TOP พร้อมเดินหน้าโครงการ CFP เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นมูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญฯ แล้วเสร็จ 5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 28, 2018 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ซึ่งประชุมเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) อนุมัติการลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project :CFP) ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของโรงกลั่นไทยออยล์ให้คงอยู่ในกลุ่มผู้นำของอุตสาหกรรม ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันดิบจากเดิมที่ 275,000 บาร์เรล/วัน เป็น 400,000 บาร์เรล/วัน

โครงการใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี และมีวงเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทมีแนวทางเพิ่มเติมในการจัดหาผู้สนใจลงทุนในหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit : ERU) ซึ่งจะทำให้วงเงินลงทุนลดลง เป็นไม่เกิน 4,174 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ สภาวะอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมในช่วงที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก จากการเกิดขึ้นของโรงกลั่นใหม่หลายแห่ง ซึ่งมีข้อได้เปรียบจากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีกำลังการผลิตสูง ทำให้โรงกลั่นที่มีอายุการใช้งานมานาน มีความสามารถในการแข่งขันลดลง นอกจากนี้ ความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดก็มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปจากสาเหตุปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการน้ำมันเตากำมะถันสูงซึ่งคาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการประกาศห้ามใช้ในเรือเดินสมุทรขององค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ(International Maritime Organization หรือ IMO) และแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน ตามการเติบโตของสภาพเศรษฐกิจและการเดินทางทางอากาศ เป็นต้น

เพื่อรองรับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ไทยออยล์จึงริเริ่มโครงการ CFP ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยจะทำการก่อสร้างหน่วยกลั่นน้ำมันดิบใหม่ที่มีกำลังการกลั่นสูงมาทดแทนหน่วยกลั่นน้ำมันเดิมซึ่งมีอายุการใช้งานมานาน ทำให้เกิดการประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้สามารถกลั่นน้ำมันดิบได้หลากหลายชนิดขึ้น การติดตั้งหน่วยเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเตาและยางมะตอยเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน เป็นต้น

การลงทุนโครงการ CFP ยังจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างโอกาสการเป็น Energy Hub ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC) สนับสนุนการขับเคลื่อนและการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศจากการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้โครงการ CFP ยังผลิตสารตั้งต้นของอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีซึ่งสามารถสนับสนุนโครงการปิโตรเคมีระยะ 4 ของภาครัฐ อีกด้วย


แท็ก ไทยออยล์   (TOP)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ