นายคูชรู วาเดีย กรรมการผู้จัดการ บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น(ไทย) (CNT) คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้ผลประกอบการจะกลับมามีกำไร จากช่วงครึ่งแรกปีนี้มีผลขาดทุน 108.17 ล้านบาท
ส่วนรายได้ปีนี้มั่นใจทำได้ตามเป้าที่ 8 พันล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6% รวมทั้งคาดว่าจะได้งานใหม่ปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันงานในมือ (Backlog) จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนงานภาครัฐและเอกชน 50:50 สามารถรับรู้รายได้ 2-3 ปี โดยในช่วงที่ผ่านมางานภาครัฐออกมาน้อยมาก แต่บริษัทก็ยังมีงานจากเอกชนที่ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า
โดยล่าสุดมี CNT ลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานกระบี่ และท่าอากาศยานขอนแก่นของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) รวมมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี เริ่มรับรู้รายได้ในเดือน ก.ย.นี้ นับเป็นครั้งแรกของ CNT ในรอบ 88 ปี ที่บริษัทได้งานสนามบิน ซึ่งจะเป็นเป้าหมายต่อไปของบริษัทที่จะรับงานประเภทดังกล่าวเพิ่มขึ้น
ดังนั้น บริษัทได้เตรียมเข้าประมูลงานโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานตรัง ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และท่าอากาศยานอู่ตะเภา รวมมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาทในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
"ครึ่งปีแรก เราก็ไม่ได้ขาดทุน แต่มีลูกค้าไม่จ่ายเราตั้งสำรอง 105 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังเราหวังว่ากลับมีกำไร แต่ทั้งปีนี้ยากที่จะมีกำไร ปีนี้ยากกว่าปีที่แล้ว บริษัทรับเหมาก่อสร้างเจอเหมือนกัน... ปีนี้ยากที่สุด ไม่ดีสุด ปีหน้าเราจะดีขึ้น"นายวาเดีย กล่าว
กรรมการผู้จัดการ CNT กล่าวว่า ในปี 62 คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 25% แตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าได้งานใหม่ 1.2 หมื่นล้านบาท จากที่เอกชนเริ่มมีการลงทุนโครงการใหม่หรือลงทุนโรงงานใหม่ โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าจะมีเอกชนทั้งในและต่างประเทศลงทุนนี้
นอกจากนี้ บริษัทจะเข้าประมูลงานภาครัฐ ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งบริษัทจะหาพันธมิตรร่วมยื่นประมูล รวมถึงงานจากภาคเอกชนที่เป็นลูกค้าเดิม อาทิ กลุ่มเครือซีพี บมจ.ปตท(PTT) บริษัทต่างชาติ เข่น มารุเมนี เนสเล่ เป็นต้น
ส่วนบริษัทย่อยที่เข้าไปรับงานในกัมพูชาและเมียนมาคาดว่าจะมีรับงานใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านบาท จากปีนี้ในเมียนมา เป็นงานก่อสร้างไซโลของเครือซีพี และในกัมพูชาได้งานก่อสร้างแมคโคร มูลค่าราว 250 ล้านบาท