ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) ทะยานขึ้นในแดนบวก หลังจากที่รีเสิร์ช อิน โมชั่น เปิดเผยผลกำไรแกร่งเกินคาด และ รายงานที่ว่า เมอร์ริล ลินช์ อาจได้รับเงินอัดฉีดก้อนมหาศาลจากเทมาเซก กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 205.01 จุด หรือ 1.55% ปิดที่ 13,450.65 จุดดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 24.34 จุด หรือ 1.67 % แตะระดับ 1,484.46 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดวิ่งขึ้น 51.13 จุด หรือ 1.94% แตะระดับ 2,691.99 จุด
ดาวโจนส์ร่วงไปมากกว่าเมื่อ 1% ท่ามกลางกระแสวิตกถึงกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ตลอดทั้งสัปดาห์สามารถบวกขึ้นมาได้ 0.83% ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.12% และ ดัชนี Nasdaq สูงขึ้น 2.13%
ตลาดหุ้นวิ่งขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ รีเสิร์ช อิน โมชั่น เปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 มากกว่า 2 เท่า เนื่องจากอุปสงค์โทรศัพท์หรูแบล็คเบอร์รี่แรง ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังว่า กลุ่มเทคโนโลยียังมีพื้นที่ว่างที่จะขยายตัว และทั้งผู้บริโภคและธุรกิจยังคงจับจ่าย
นอกจากนี้ วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานข่าวว่า เมอร์ริล ลินช์ ซึ่งกำลังเผชิญกับการขาดทุนมหาศาลจากธุรกิจปล่อยกู้จำนองซับไพรม์ มีความคืบหน้าในการหารือเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินมากถึง 5 พันล้านเข้าสู่บริษัท โดยคาดว่า จำนวนเงินมหาศาลจะมาจาก เทมาเซก โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์
ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายส่วนบุคคลก็เป็นข่าวที่น่ายินดีอีกข่าว โดยการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่งทีเดียว ช่วยบรรเทาความวิตกว่า ผู้บริโภคจะจำกัดการจับจ่าย และกระทบต่อเศรษฐกิจ
ทางด้าน อลัน เกลย์ นักวิเคราะห์การลงทุนอาวุโสประจำ ทรัสโก้ แคปิตอล แมนเนจเมนท์ กล่าวว่า "เราเชื่อว่าตลาดหุ้นจะมีภาวะคึกคักช่วงเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากปัจจัยประจำฤดูกาล และตลาดยังมีมูลค่าน่าลงทุนอีกด้วย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: ruedee@infoquest.co.th--