LIT วางกลยุทธ์ 3 ปี (ปี 61-63) เดินหน้าย้ายหุ้นเข้า SET พร้อมดันเรตติ้งให้อยู่ระดับ Investment Grade

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 29, 2018 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลีซ อิท (LIT) เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์ระยะยาว 3 ปี (ปี 61-63) บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินการย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนของ LIT จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการความเสี่ยง โดยจะดำเนินการจัดอันดับเครดิต (Credit Rating) ให้อยู่ในระดับ Investment Grade ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ต้นทุนทางการเงินที่เหมาสมและได้เปรียบเชิงแข่งขัน

ชวงที่ผ่านมาได้ตั้งบริษัทย่อยใหม่ บจก.ลิท เซอร์วิส แมเนจเม้นท์ เพื่อให้บริการข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อตลอดจนบริหารโครงการสินเชื่อ ให้กับบริษัท เพื่อยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าเพื่อบริการวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อให้กับบุคคลภายนอกในอนาคต

บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนารูปแบบการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) หลังจากได้เริ่มมีการทดลองใช้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และสามารถเปิดวงเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับจากช่องทาง Digital Marketing คิดเป็นสัดส่วน 4.48% ของวงเงินสินเชื่อรายใหม่ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ

ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 61 บริษัทยังคงมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคู่ค้ากับหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เป็นหลัก เพื่อให้บริการสินเชื่อตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ เช่น สินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูล (Bid Bond) สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) และบริการรับซื้อหนี้การค้า (Factoring)

"มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้รวมในปีนี้จะเติบโต 20% คิดเป็นราว ๆ 503 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 418 ล้านบาท ส่วนยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ประกอบกับในทุกปีไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วง High Season ของบริษัท ซึ่งมีแนวโน้มที่ลูกค้าของบริษัทจะทยอยมาใช้บริการสินเชื่อเพื่อไปประมูลงานและทำงานให้กับภาครัฐมากที่สุด พร้อมลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ"นายสมพล กล่าว

อนึ่ง LIT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ทำสถิติสูงสุดใหม่ในทุกปี โดยในปี 57 มีกำไรสุทธิ 47.81 ล้านบาท ปี 58 กำไรสุทธิ 70.45 ล้านบาท ปี 59 กำไรสุทธิ 100.66 ล้านบาท และปี 60 กำไรสุทธิ 145.49 ล้านบาท ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 61 มีกำไรสุทธิ 76.36 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ