TVD มั่นใจ Q3/61 พลิกมีกำไรหลัง Q2/61 ขาดทุน พร้อมมั่นใจรายได้ทั้งปีโตตามเป้า 3.99 พันลบ.รับยอดขายโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 29, 2018 13:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวีไดเร็ค (TVD) คาดว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/61 จะกลับมามีกำไรได้ และคาดว่าจะมีกำไรสูงกว่าไตรมาส 1/61 ที่มีกำไร 14.32 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 2/61 มีผลขาดทุนราว 7 ล้านบาท

เนื่องจากขณะนี้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นการเข้าร่วมลงทุนผลิตรายการโฮมช็อปปิ้งกับสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ซึ่งเป็นการผลิตรายการแนะนำสินค้าต่างๆ ของทีวี ไดเร็ค ที่ออกอากาศทางทีวีดิจิทัลช่อง 19 และ Home Shopping 24 ชั่วโมงมียอดขายปรับตัวดีขึ้น จากที่ 2 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเพียง 30 ล้านบาทต่อเดือน

บริษัทคาดว่ายอดขายรวมในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก และมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือมากกว่าเป้าหมายที่ 3,990 ล้านบาท คิดเป็นเติบโต 17% จากปีก่อน โดยจะผลักดันยอดขายในทุกช่องทางจำหน่ายทั้งช่องทางโฮมช็อปปิ้ง การรุกโฆษณาผ่านทีวีดิจิทัลหลากหลายช่อง ร้านค้าปลีก TV Direct Showcase ที่กำลังเติบโตทั้งในห้างสรรพสินค้าและนอกห้างสรรพสินค้า

ที่สำคัญยอดขายช่องทางออนไลน์ได้เติบโตขึ้นถึง 2 เท่า หรือมียอดขายราว 300-400 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 10% จากปีก่อนที่มีรายได้เพียง 70 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 2% เพราะการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรด้านโซเชียลไม่ว่าจะเป็น Shopee Facebook หรือแม้แต่ Google เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากอย่างเฉพาะเจาะจง เป็นการผสานความเชี่ยวชาญด้านไดเร็คมาร์เก็ตติ้งของบริษัท กับสื่อโซเชียลได้ดี

ขณะที่ TVDmomo เว็บช็อปปิ้งชั้นนำจากไต้หวันยอดขายค่อยๆปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาการขายผ่านช่องทางนี้มีผลขาดทุน เนื่องจากต้นทุนการขนส่งที่ค่อนข้างสูง บริษัทฯจะเข้าไปเน้นการบริหารจัดการค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลประกอบการเป็นกำไรได้ในเดือน ส.ค. เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ บริษัทฯเตรียมขยายสาขา TV direct showcase เพิ่มอีก 3-4 สาขา ด้วยงบลงทุนราว 1 ล้านบาทต่อสาขา จากที่ผ่านมาบริษัทฯเปิดสาขาไปแล้ว 1 สาขา ที่อำเภอเบตง โดยสาขาที่จะเปิดอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และพื้นที่หัวเมืองต่างๆ และพื้นที่ที่มีศักยภาพ

นายทรงพล ยังคาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 53% สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 42.66% โดยบริษัทคาดว่าจะเห็นยอดขายของสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามเข้ามาจำนวนมากในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) โดยรวมของบริษัทให้ปรับตัวดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ