นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวเปิดงาน Thailand Focus 2018 :"The Future is Now" โอกาสการลงทุน...ไม่ต้องรออนาคต ว่า การจัดงานครั้งนี้ ตลท.ได้ร่วมกับ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทำให้มีนักลงทุนสถาบันต่างชาติเข้าร่วมงานรวม 161 กองทุนทั่วโลก สูงสุดตั้งแต่ได้มีการจัดการงานมา และยังมีกองทุนจากกลุ่มประเทศใหม่ ๆ เข้าร่วมงานอีกด้วย เช่น ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และตะวันออกกลาง เป็นต้น โดยเชื่อมั่นว่าหลังจากจบงานดังกล่าวจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินไหลกลับ (Fund flow) เข้ามาลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดทุนของไทยถือว่ามีความเข้มแข็งทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ถือว่าเป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 530,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการขยายธุรกิจและการปรับโครงสร้างบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น พลังงาน, สุขภาพ และโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ การระดมทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีเป้าหมายลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านด้วย เช่น ลาว และเวียดนาม เป็นต้น
"ตลาดหุ้นไทย มีสภาพคล่องสูงสุดในอาเซียนนับตั้งแต่ปี 2012 ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ เป็นผลมาจากความหลากหลายและองค์ประกอบของนักลงทุนประเภทต่าง ๆ ที่มีความสมดุล ซึ่งตลาดหุ้นไทยได้พิสูจน์แล้วว่ามีความแข็งแกร่ง สามารถรองรับความไม่แน่นอนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศได้"นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียนไทยมีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพสามารถปรับตัวรับกับความต้องการในประเทศ และยังสามารถขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยมีสัดส่วนรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 35% เป็น 46% ในช่วงปี 2551-2561 ซึ่งมีวิกฤติเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศหลายครั้ง แต่กำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยยังเติบโตได้ 13% โดยเฉพาะธุรกิจการค้าและพาณิชย์ ธุรกิจสุขภาพ และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่มีการเติบโตกว่า 3 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมหลัก 4 ด้านที่จะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแห่งโอกาสที่ดีที่สุดของนักลงทุน โดยอุตสาหกรรม 4 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.อุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2.อุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี 3.เกษตรนวัตกรรม และ 4.อุตสาหกรรมดิจิทัล
อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีแผนเชื่อมโยงตลาดทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งคาดว่าจะนำกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและบริษัทจดทะเบียนในประเทศกลุ่ม CLMV เข้าระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในต้นปี 62
"ตลาดทุนไทยยังคงสถานะแหล่งระดมทุนที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ บนพื้นฐานการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ...ตลาดหลักทรัพย์จะเข้าไปมีส่วนร่วมในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปลายไตรมาส 3 รวมทั้งตลาดหุ้นไทยยังเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงการในภูมิภาคนี้ด้วย เช่น ลาว ที่ระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรในไทยกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ และกองทุนภายใต้ความร่วมมือ ACMECS กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น"นายภากร กล่าว