นายสาธิต วรรณศิลปิน รองกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย(SCIBS)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ไม่แปลกใจถ้าพรรคพลังประชาชนจะได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่แปลกใจที่ Exit Poll ออกมาว่าได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งหากภาพรวมออกมาตาม Exit Pol และสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้l ก็น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย เศรษฐกิจ และตลาดหุ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือกลุ่มการเมืองอื่นๆ จะยอมรับสภาพได้หรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากคำให้สัมภาษณ์ของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็แสดงความพยายามที่จะยอมรับสภาพได้
"เซอร์ไพร์สมาก จริง ๆ เท่าที่ดู Poll ก่อนหน้านี้ ก็เห็นพลังประชาชนมาอันดับ 1 นะ แต่ก็ยังไม่เคยมีอันไหนที่เกิน 240 เสียงเลยนะ อันนี้ก็เซอร์ไพร์สมาก ผมไม่คิดว่าจะสามารถทำได้เกินครึ่ง และก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ภาพรวมก็ถือว่าการจัดตั้งรัฐบาลคงจะทำได้เร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะถ้าดูจากตรงนี้แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปรวมกับพรรคอื่น หรือถ้าจะรวมก็ไม่จำเป็นต้องรวมหลายพรรค"นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวอีกว่า ในภาพรวมออกมาดีกว่าที่คาด คือหากพปช.ได้เสียเป็นอันดับ 1 ด้วยเสียง 200 หรือ 200 ต้นๆ ก็อาจเป็นไปได้ที่จะ ปชป.จะแข่งตั้งรัฐบาล แต่หากพปช.ได้เสียงเกือบครึ่งหรือเกินครึ่ง ความเป็นไปได้ในการแข่งกันจัดตั้งรัฐบาลก็คงไม่มีทาง ยกเว้นว่าจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งในระบอบของรัฐธรรมนูญของไทยไม่เอื้อ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือกลุ่มการเมืองอื่นๆ จะยอมรับสภาพได้หรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากคำให้สัมภาษณ์ของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็แสดงความพยายามที่จะยอมรับสภาพได้
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย รองกรรมการผู้จัดการ SCIBS กล่าวว่า ถ้าตั้งรัฐบาลได้เร็วก็จะเป็นผลดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะยังไม่แน่ใจว่าประชาชนจะยอมรับนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่านายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาก็ออกมาในลักษณะคล้าย ๆ กัน คือช่วงแรกการยอมรับในตัวนายกรัฐมนตรีอาจไม่มากนัก แต่สุดท้ายคิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยดี
"ใจผมคืออยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ เพราะการดำเนินการเรื่องสำคัญ ๆ หลายเรื่องที่ต้องเป็นการตัดสินใจในเชิงนโยบาย และประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยเนี่ย มีหลายกิจกรรมที่หยุดไปในช่วงที่ผ่านมา ก็น่าจะทำได้ดีกว่าเดิม ก็เป็นเรื่องของตัวบุคคลแล้วแหล่ะ ว่าจะยอมรับได้หรือไม่ได้ แต่โดยระบอบได้ถูก settle ไว้อย่างชัดเจน"รองกรรมการผู้จัดการ SCIBS กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติให้การยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ขอให้การเลือกตั้งผ่านไปด้วยดีเท่านั้น นอกจากนี้ เข้าใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกไปใช้สิทธิมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วย เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายคงต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ไซรัส (SYRUS)กล่าวว่า ภายหลังเลือกตั้งไม่ว่าพรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาล ก็เชื่อว่าเหตุการณ์ทางการเมืองจะยังไม่นิ่ง แต่ในแง่ของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นมองว่าจะดีขึ้น เนื่องจากผ่านการเลือกตั้งที่สมบูรณ์ ทำให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ
"เชื่อว่าภายหลังเลือกตั้ง ความวุ่นวายยังเหมือนเดิม มันคงจะยังไม่นิ่งไป และถ้าพรรคพลังประชาชนได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งมากที่สุด ก็จะต้องดูต่อไปว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือเปล่า จะไปจับขั้วกับใครได้บ้างไหม คิดเอาขนาดมีการปฏิวัติในช่วงที่ผ่านมา หุ้นยังขึ้นเลย ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลใหม่ ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะดีขึ้นได้ เพราะมีการเลือกตั้งที่สมบูรณ์ ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ"นายสมภพ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
กรรมการผู้จัดการ SYRUS กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเด็นการเมืองไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนคำนึง แต่มาจากปัจจัยภายนอกประเทศ ดังนั้น ให้มองไปที่ปัจจัยจากภายนอกประเทศดีกว่า อย่างเรื่องของ fund flow และเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะมีการชะลอตัวมากหรือน้อยขนาดไหน
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--