บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ประกาศกลยุทธ์ "World Elite Tourism"ดึงดูด Quality Tourist ทั่วโลกครั้งแรก ด้วยการปั้นเซ็นทรัลภูเก็ต ศูนย์การค้าที่เป็นลักชูรี่แฟล็กชิพแบรนด์ใหม่ภายใต้งบ 3 พันล้านบาทรองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่คาดว่าภายใน 2-3 ปีภูเก็ตจะมีนักท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านคน พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดใช้จ่ายนักท่องเที่ยวในศูนย์ให้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย.61
ทั้งนี้ โครงการเซ็นทรัล ภูเก็ต มีมูลค่าลงทุน 2 หมื่นล้านบาท พื้นที่โครงการ 4 แสนตารางเมตร บนพื้นที่ขนาด 111 ไร่ รวมจำนวนกว่า 400 ร้านค้า
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPN กล่าวว่า บริษัทใช้งบ 3 พันล้านบาทเพิ่มการลงทุนให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ให้เป็นลักชูรี่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มเติมด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Tribhum (ไตรภูมิ) ประสบการณ์การผจญภัยเสมือนจริงแบบ 3D ในโลกแฟนตาซีวอล์คทรูแห่งแรกของโลก ซึ่งใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ย.61,
Aquaria (อควาเรีย) อควาเรียมรูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมให้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของมหาสมุทรและความลึกลับของแม่น้ำ และสัตว์กว่า 25,000 ตัว ใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท จะเปิดให้บริการไตรมาสแรก 62, Tales of Thailand (เทลส์ ออฟ ไทยแลนด์) จำลองบรรยากาศวิถีชีวิต ทั้ง 4 ภาค ความเป็นไทยในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุด โดยใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท ต้องการสร้าง Super Magnet และ World Playlist งานอีเว้นท์ยิ่งใหญ่ระดับโลก
รวมถึงการสร้างศูนย์การประชุมนานาชาติ และโรงแรมมาตรฐานระดับโลกมีขนาด 6,000 ตร.ม.ใช้งบลงทุน 1,500 ล้านบาท อยู่ในพื้นที่เซ็นทรัลภูเก็ต เพื่อรองรับธุรกิจ MICE โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้เพื่อผลักดันภูเก็ตเป็น World-Class MICE City
นางสาววัลยา กล่าวว่า เซ็นทรัลภูเก็ต เดิมมีพื้นที่ 2 แสนตร.ม. เป็นเซ็นทรัลเฟสติวัลที่เปิดบริการมา 14 ปีแล้ว และส่วนศูนย์ที่เพิ่มเติมใหม่มีพื้นที่อีก 2 แสนตร.ม. รวม 4 แสนตร.ม.จะเปิด Grand Opening ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ทั้งนี้จะทำให้เซ็นทรัลภูเก็ตมีครบทุกแม่เหล็กดึงดูดไว้ในศูนย์การค้าแห่งนี้ที่จะตอบรับกำลังซื้อระดับบนเทียบเท่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่
"ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต จะรวมลักชูรี่แบรนด์, Attractive MICE จะเป็นศูนย์ฯแรกที่มีครบทุกมุม เราจะสร้าง Landmark เทียบชั้นย่านราชประสงค์ และผลักดันภูเก็ต เป็น MICE CITY...เราเชื่อว่าเซ็นทรัล ภูเก็ตจะเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างแท้จริง และจะช่วยเพิ่มปริมาณของนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพให้ใช้จ่ายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ผลักดันเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูเก็ต เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปทั่วจังหวัด สร้างเงินสะพัดในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี ผ่านทางศูนย์การค้า"นางสาววัลยา กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ตมี 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม Rich Asian Millennials นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชีย อาทิ ชาวจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงค์โปร์, มาเลเซีย เป็นต้น โดยเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีแนวโน้มมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย โดย Asian Millennials มีจำนวนถึง 60% ของมิลเลนเนียลทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีประชากรมิลเลนเนียลประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งมีช่วงอายุตั้งแต่ 20-35 ปี พร้อมที่จะใช้จ่ายเงินกับการท่องเที่ยว เพื่อซื้อประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ชอบความหวือหวา ชื่นชอบ การช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม
กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่ม European High Spenders นักเดินทางชาวยุโรปที่ใช้จ่ายสูง เช่น รัสเซีย เยอรมัน และ อังกฤษ ซึ่งเน้นการพักผ่อนในระยะยาว (Long Stay) ชื่นชอบในสินค้าไทย ของที่ระลึกของฝาก และ เรื่องราวที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย ความเป็นโลคอล และ 3) กลุ่ม Bluxury (Business + Luxury) นักธุรกิจที่เดินทางไปในต่างประเทศเพื่อการประชุม สัมมนา หรือ Incentive Trip ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีรายได้สูง พักผ่อนแบบพรีเมี่ยม อาจเดินทางมาด้วยตนเองหรือพาครอบครัวมาด้วย และมีแนวโน้มในการขยายเวลา การเดินทางเพื่อพักผ่อนส่วนตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ถือเป็นผู้ชี้นำเทรนด์ท่องเที่ยวของโลกในอีก 2-3 ปี ข้างหน้าที่จะมีส่วนผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลกให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
"CPN มั่นใจภูเก็ต จึงลงทุนโครงการศูนย์การค้ามากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ขยายให้ครบทุก secment เป็นแม่เหล็กดึงดูด ซึ่ง CPN ไม่เคยทำ จะทำศูนย์ฯตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยว และให้เป็นระดับพรีเมียม และเราจะเป็น World Player Luxury"
นางสาววัลยา คาดว่า รายได้ในครึ่งหลังปีนี้จะดีกว่าครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งมีอัตราเติบโต 14% จากการปรับปรุงศูนย์เซ็นทรัลพระราม 3 ที่เปิดบริการแล้ว และเซ็นทรัลเวิล์ดจะปรับปรุงเสร็จในปลายปีนี้ รวมทั้งยังมีการจัดทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ แม้ว่าในปีนี้จะไม่มีมาตรการช้อปช่วยชาติ อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 20%
ขณะที่กระแสข่าวเรื่องการลงทุน บมจ.แกรนด์ คาแนล แลนด์ (GLAND) นั้น นางวัลยา กล่าวเพีง บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ
ด้านนายปกรณ์ พรรธะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานปฏิบัติการ CPN คาดว่า หลังการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ในก.ย.61 ก็คาดว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการจะมียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 3,000 -4,000 บาท/คน/ครั้ง มาเป็น 8,000 บาท/คน/ครั้ง จากการที่มีสินค้าแบรนด์เนมเข้ามาและจำนวนสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดคนเข้าศูนย์ฯ (Traffic ) คาดว่าจะโตเท่าตัวจาก 3 หมื่นคน/วันเพิ่มเป็น 6 หมื่นคน/วัน โดยสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ และ ลูกค้าไทย ที่ 50:50 ซึ่งเป็นศุนย์ฯแรกที่โฟกัสนักท่องเที่ยวในสัดส่วนที่สูงมาก
ดุงนั้น บริษัทจึงแยกส่วนของแผนกการตลาดการท่องเที่ยวหรือทัวริสต์มาร์เก็ตติ้ง (Tourist Marketing) ให้เป็นแผนกใหม่ออกมาอย่างชัดเจน พร้อมสร้าง Tourist Big Data เชื่อมโยงกับฐานลูกค้า สมาชิก The 1 Tourist ที่เข้าถึงลูกค้าต่างชาติทั่วโลกกว่า 700,000 คน และสร้าง CRM ให้เกิดการ cross selling ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกกับศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัลที่มีอยู่ทั่วโลก
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ตจะช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูเก็ต ที่คาดว่ามีเงินสะพัดหมุนเวียกว่า 3 หมื่นล้านบาทแล้ว และธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโตด้วย โดยขณะนี้ ได้มีธุรกิจเรือยอรช์ เรือสำราญ ลีมูซีน ก็เข้ามาติดต่อที่บริษัท
นายปกรณ์ กล่าวว่า บริษัทจะนำเข้าแบรนด์ต่างประเทศเข้ามาอีกกว่า 400 แบรนด์ โดยส่วนใหญ่เป็นแบรนด์เกี่ยวกับแฟชั่นที่จะเปิดตัวฤดู Summer และยังมีแบรนด์อาหารด้วย