นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะย่อตัวลงแต่คงจะไม่มากนัก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันเกือบทุกตลาด จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่มีข่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสหรัฐฯอาจจะถอนตัวจากองค์การการค้าโลก (WTO) หากไม่ทำให้สหรัฐฯดีขึ้น
พร้อมกันนี้ให้ติดตามเรื่องของ MSCI ที่จะนำหุ้น A-Share ของจีนเข้ามาในการคำนวณและจะมีผลในวันนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติอาจจะขายปรับพอร์ตได้ อีกทั้ง Emerging Market เผชิญแรงกดดันจากอาร์เจนตินาค่าเงินได้อ่อนค่าสุดเป็นประวัติการณ์ และยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 15% มาเป็นอัตราดอกเบี้ย 60%
พร้อมให้แนวรับ 1,714-1,710 จุด ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,730 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ส.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,986.92 จุด ลดลง 137.65 จุด (-0.53%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,088.36 จุด ลดลง 21.32 จุด (-0.26%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,901.13 จุด ลดลง 12.91 จุด (-0.44%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 136.25 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 56.49 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 25.35 จุด,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 365.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.63 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 15.10 จุด
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ส.ค.61) 1,720.43 จุด ลดลง 1.83 จุด (-0.11%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,912.93 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ส.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ส.ค.61) ปิดที่ 70.25 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ส.ค.61) ที่ 6.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.75 อ่อนค่าจากวานนี้หลังดอลล์แข็ง มองกรอบวันนี้ 32.60-32.80
- "อุตตม"แนะปรับเป้าหมายการเติบโตจีดีพีไทย สูงกว่า 5% ต่อปี เหตุโครงการลงทุนขนาดใหญ่-ต่างชาติจ่อลงทุนอีอีซี ดันเศรษฐกิจโตก้าวกระโดด พร้อมเชื่อมโยงอีอีซีสู่เส้นทางเศรษฐกิจโลก พัฒนา"เอสอีซี"เป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ภาคใต้ เชื่อมเส้นทางการค้าจากอีอีซีสู่ภูมิภาคเอเชียใต้
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการเก็งกำไรค่าเงินบาทเป็นระยะๆ ทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวน ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามดูแลใกล้ชิด หากค่าเงินบาทมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป ก็มีเครื่องมือเข้าไปดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพ โดยไม่ได้ดูแลค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการ เพราะที่ผ่านมา ธปท.แทรกแซงค่าเงินบาททั้งที่เวลาอ่อนค่าและแข็งค่า
- วงการเงินดิจิทัล ยอมรับ"ไอซีโอ" เริ่มไร้เสน่ห์ แนวโน้มผู้ออกลดลง หลังพบประสบความสำเร็จน้อย ขณะธุรกรรม หลอกลวงเยอะ ชี้แนวโน้มเริ่มหันไปทำ "เอสทีโอ" หรือ ระดมทุนด้วยหุ้นผ่านบล็อกเชนแทน เผยผู้ถือได้ปันผลเมื่อมีกำไรดี เชื่อ ตลาด-ก.ล.ต.เตรียมปรับกฎเกณฑ์เพื่อดูแล
- กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 เรื่อง สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ หรือสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ฉบับที่ 2 โดยได้ปรับปรุงนิยามให้ผู้ประกอบการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ สามารถทำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เพิ่มเติมจากเดิมที่ปล่อยกู้ได้เฉพาะกรณีใช้บุคคลค้ำประกัน และจดจำนองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์
*หุ้นเด่นวันนี้
- TPIPP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 8.2 บาท คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น (ส.ค.โรงไฟฟ้า TG7 กำลังการผลิต 70MW เริ่มการผลิต) ขณะที่ Valuation ค่อนข้างถูก PE 13 เท่าเทียบกับกลุ่มเฉลี่ยที่ 24 เท่า อีกทั้งยังจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Yield 6-7% ต่อปี
- ASK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 26.20 บาท ทั้ง ASK และ THANI จะได้ประโยชน์จากนโยบายเปลี่ยนรถตู้สัมปทานเป็นรถมินิบัส (21 ที่นั่ง) ภายในปี 2565 คาดว่าจะมียอดขอสินเชื่อราว 3 หมื่นล้านบาท ซึ่ง ASK ดูชำนาญกว่า และถ้าสมมติให้ ASK ได้ส่วนแบ่งตลาด 5% จะได้สินเชื่อใหม่ 1.5 พันล้านบาท หรือ 5% ของสินเชื่อรวม ในกรณีปกติกำไรอาจโตไม่หวือหวา แต่เป็นหุ้นปันผลชั้นเยี่ยม แม้วานนี้ราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว 4% ยังให้ Dividend yield สูงราว 6.4%
- VGI (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 8.49 บาท ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้น หลังได้ชี้แจงข้อมูลในงานไทยแลนด์ โฟกัส โดยคาดว่ากำไรจะยิ่งเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะเมื่อมีการนำกำไรจาก Kerry ที่ซื้อเข้ามา ในสัดส่วน 23% และคาดว่าจะมีการเติบโตกำไรที่สูงมากช่วยเสริมกำไรตามส่วนได้เสีย และเข้าสู่ high season การโฆษณาในช่วงไตรมาส 3 (ต.ค.-ธ.ค) ข้อดีคือ บริษัทอยู่ในธุรกิจโฆษณาสื่อนอกบ้าน โลจิสติกส์ และ Online จาก Rabbit ที่อยู่ในช่วงสดใสและมีอนาคต