โบรกฯ มองพรุ่งนี้หุ้นไหวแกว่งแคบรอความชัดเจนตั้งรัฐบาล/หุ้นทั่วโลกหยุด

          นายไพบูลย์ นรินทรางกูร กรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ดัชนีไม่น่าจะเคลื่อนไหวมาก เพราะขณะนี้การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ลงตัว โอกาสที่ทั้งฝ่ายพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์จะจัดตั้งรัฐบาลก็ยังมีอยู่ เชื่อว่าตลาดหุ้นคงรอดูบทสรุป ยังไม่น่าจะมีแรงขายออกมา 
          อีกประเด็น เนื่องจากราคาหุ้นช่วงนี้อยู่ในระดับต่ำไม่เหมือนกับในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา หุ้นมักจะขึ้นก่อนเลือกตั้งและ take profit หลังเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งคราวนี้หุ้นไม่ได้ขึ้นมา ทำให้แรง take profit จะไม่มากนัก ส่วนแรงซื้อก็ยังไม่น่าจะมีเพราะพรุ่งนี้ตลาดต่างประเทศปิดเนื่องในวันคริสต์มาส 
          "ในช่วงแรกๆ ตลาดหุ้นไม่น่าจะเคลื่อนไหวมาก ไม่ว่าจะเป็นแรงเทขายหรือแรงซื้อเข้ามา ที่ไม่ขายออกมาเพราะราคาหุ้นปรับลงมาเยอะแล้ว พรุ่งนี้ถ้าฝรั่งไม่มีหรือมีน้อยและในประเทศเองถ้ายังไม่ชัดเจน ดัชนีก็ไม่น่าจะเคลื่อนไหวมาก" นายไพบูลย์ กล่าว           
          สำหรับทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่นั้น ขณะนี้มี 2 พรรคที่จะเป็นแกนนำของแต่ละขั้วในการจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคพลังประชาชนตั้งรัฐบาลขึ้นมาก็ต้องดูว่าจะทำอะไรต่อไป แต่คงต้องดูกระแสความนิยมไปพร้อม ๆ กับผลที่จะตามมา อาจมีสิ่งที่เปลี่ยนไปจากตอนที่หาเสียงไว้ ตลาดหุ้นก็คงจะให้โอกาสรอดู
          แต่ถ้าเป็นพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ข้อด้อยคือจำนวน ส.ส.ค่อนข้างน้อย แต่ข้อดีก็คือชัดเจนว่าเป็นอีกฟากหนึ่งน่าจะมีการนำนโยบายใหม่ๆ เข้ามา
          ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นพรุ่งนี้สถานการณ์ขณะนี้เป็นกลางๆ ภาพที่ออกมาอยู่ในบรรยากาศของการรอดูว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะออกมาเป็นอย่างไร รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นมาจะมีเสถียรภาพหรือไม่ โดยขั้วหนึ่งรวมตัวกันก่อนเลือกตั้ง อีกขั้วหนึ่งอาจจะกำลังดูอยู่ว่าจะรวมกันหลังเลือกตั้งหรือไม่ 
          "ความสูสีตรงนี้อาจจะทำให้นักลงทุนก็ต้องมีอารมณ์ที่ต้อง wait and see อยู่บ้าง และก็ต้องดูทิศทางต่อไปว่าจะนำไปสู่เสถียรภาพหรือนำไปสู่ความผันผวน แต่ในเบื้องต้นสถานการณ์ก็ค่อยเป็นค่อยไป ในภาพหนึ่งก็อยากจะมองในแง่ดีว่าทิศทางตลาดหุ้นคงเป็นกลาง ๆ ไม่ได้น่าตระหนกเกินไป ขณะเดียวกันก็ต้องดูความชัดเจนอีกนิดหนึ่งว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นลักษณะไหน"นายมนตรี กล่าว
          อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกทั้งตลาดต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และการเลือกตั้งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสามารถที่จะเดินไปตามครรลองประชาธิปไตย ภาพที่ออกมาน่าจะเป็นบวก เพราะถือว่าเดินไปตามกติกาไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นคนจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่ยังถือได้ว่ามีความชอบธรรม