หุ้น SMART ราคาพุ่งขึ้น 22.09% มาอยู่ที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท มูลค่าซื้อขาย 14 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.17 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.93 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.11 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.93 บาท
บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) แจ้งว่าตามที่อดีตผู้ถือหุ้น (โจทก์) ฟ้องบริษัท และทนายความของบริษัท (จำเลย) ในวันที่ 24 ต.ค.60 ให้ชดใช้ค่าขาดประโยชน์ จากส่วนต่างของราคาหุ้นสามัญระหว่างมูลค่าหุ้นกับราคาจองซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย.57 เป็นจำนวนเงิน 18.9 ล้านบาท และส่วนต่างของราคาระหว่างมูลค่าหุ้นกับราคาจากการซื้อขายหุ้นระหว่างวัน ของวันแรกที่เปิดตลาดการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งได้แก่ วันที่ 2 ต.ค.57 เป็นจำนวนเงิน 67.2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 86.1 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยของค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันที่ 2 ต.ค.57
สืบเนื่องจากคดีที่ศาลมีคำพิพากษาศาลฎีกาว่า บริษัทริบหุ้นโจทก์เป็นการมิชอบ และบริษัทได้ใช้ราคาแทนการคืนหุ้น เป็นเงิน 21.0 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ค.60 โดยโจทก์ฟ้องว่า โจทก์เสียหายทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด กล่าวคือ โจทก์ขาดประโยชน์จากราคาส่วนต่างจองหุ้นในระหว่างการนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนใน mai และโจทก์ขาดประโยชน์จากการซื้อขายหุ้นระหว่างวันเข้าซื้อขายวันแรก
เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดชลบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ ทำให้บริษัทไม่ต้องชดใช้ค่าขาดประโยชน์ให้แก่อดีตผู้ถือหุ้นจำนวนทุนทรัพย์ 86.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.57 เป็นต้นไป ตามที่อดีตผู้ถือหุ้นฟ้องมาทั้งสิ้น รวมถึงให้อดีตผู้ถือหุ้นชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนบริษัทและจำเลยที่ 2 โดยกำหนดค่าทนายความ 30,000 บาท
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวโจทก์มีสิทธิในการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษา หรือภายในวันที่ 30 ก.ย.61 หากโจทก์ยื่นอุทธรณ์ บริษัทและจำเลยที่ 2 ต้องยื่นแก้ทธรณ์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน