นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ด้วยการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมสีเขียวสู่ตลาดสากล โดยโครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญขององค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันอาหาร (NFI) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย และกลุ่มบริษัทบางจากฯ โดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจบางจาก (BiiC) และบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ผู้ดำเนินธุรกิจกลุ่ม Non-Oil
นายสมชัย กล่าวว่า จุดยืนที่ชัดเจนอย่างหนึ่งของกลุ่มบริษัท บางจากฯ คือการสร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียว ซึ่งที่ผ่านมาทางบางจากมีโครงการหลายโครงการ ทั้งในด้านพลังงานหรือกิจกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) เช่น การจัดตั้ง บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิพุทธเศรษฐศาสตร์ โดยพระมหาวุฒิชัย (ท่าน ว.วชิรเมธี) ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม พร้อมทั้งให้ความรู้ด้านการบริหารต้นทุนและส่งเสริมด้านการตลาด และการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ เป็นต้น
นายสุวัฒน์ มีมุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ ของ BCP กล่าวว่า ในส่วนของสถาบัน BiiC เป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อยอดการขยายธุรกิจ ผลักดันนวัตกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ตามนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 รวมไปถึงการให้ทุนวิจัยแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ การลงทุนในธุรกิจ Start Up เพื่อติดตามและนำเทคโนโลยีมาต่อยอดกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทบางจากฯ
นายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ในนาม SPAR Thailand ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสพาร์ในประเทศไทย ภายใต้ SPAR International ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าปลีกระดับโลก เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ให้ความสำคัญกับการนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดเสมอ โดยในส่วนของตัวสินค้า บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งมีเป้าหมายตรงกับแนวทางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่หันมาให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของสินค้า ซึ่งจุดนี้ถือเป็นเทรนด์สินค้าของ SPAR ทั่วโลก
สำหรับ SPAR Thailand ไม่เพียงมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด แต่มองไปถึงสินค้าต้นแบบที่เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่ยกระดับผู้ประกอบการ แต่เป็นการยกระดับสินค้าของประเทศไทย ให้มีความโดดเด่น แตกต่างและน่าสนใจ เพื่อวางจำหน่ายที่ SPAR Thailand รวมถึงโอกาสในการวางจำหน่าย ในเครือข่าย SPAR International และโอกาสในการจำหน่ายที่ร้านอินทนิล ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดดำเนินการกว่า 500 สาขา และมากกว่า 1,000 สาขาในอีก 2-3 ปี ข้างหน้าด้วย
โครงการ SPAR Awards เป็นโครงการประกวดผู้ประกอบการไทย เพื่อคัดเลือกสินค้าสู่การวิจัยและพัฒนาให้เป็น SPAR Signature Products โดยแบ่งรางวัลออกเป็น รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และ อันดับ 2 ภายใต้เกณฑ์การตัดสิน 4 ด้าน ได้แก่ นวัตกรรม (Innovation) ความแตกต่าง (Differentiate) คุณภาพและมาตรฐาน (Quality Standard) และยอดขาย (Sales) ซึ่งมีกำหนดทดลองวางจำหน่ายภายในปีนี้