นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารประกาศการออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2561 มูลค่า 70 ล้านบาท ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุประมาณ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.64% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจำนวนไม่เกิน 10 ราย โดยกำหนดวันออกหุ้นกู้ในวันที่ 5 ก.ย.61 และครบกำหนดไถ่ถอน ณ วันที่ 17 ส.ค.64
"วัตถุประสงค์สำคัญของการออกหุ้นกู้ มูลค่า 70 ล้านบาท ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการรับมือกับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้น ด้วยการทยอยล็อกต้นทุนทางการเงินของบริษัท เพื่อควบคุมต้นทุนทางธุรกิจ นอกเหนือจากการควบคุมต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งการออกหุ้นกู้ เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่เราใช้มาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านอื่น ๆ ในตลาด เพื่อเพิ่มรายได้จากการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ"นางสาวปฐมา กล่าว
นางสาวปฐมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน TK มีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยประมาณ 2.5% ต่อปี และสัดส่วนเงินกู้ระยะยาว ต่อเงินกู้ระยะสั้น ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 65:35 โดยเงินกู้ส่วนใหญ่ประมาณ 93% เป็นแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ ภายหลังการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 70 ล้านบาทนี้ ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของ TK จะยังคงใกล้เคียงกับระดับเดิมที่ 2.5%ต่อปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ Debt Equity Ratio (D/E Ratio) ของ TK ยังต่ำมากคือเพียง 1.20 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ D/E Ratio ของบริษัทอื่นในธุรกิจเดียวกันที่สูงถึง 6-7 เท่า
สำหรับพอร์ตลูกหนี้เช่าซื้อของ TK ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10 ไตรมาสติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยยังคงหดตัวเล็กน้อยจากราคาพืชผลการเกษตรที่ไม่สูงมากนัก ทำให้กำลังซื้อของลูกค้าในประเทศชะลอตัว แต่ TK ก็ยังสามารถเติบโตได้ โดยในครึ่งปีแรกรายได้เติบโตประมาณ 8% จาก 1,778 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 1,924 ล้านบาทในปี 2561 ส่วนผลประกอบการโดยรวมนั้นยังคงสามารถทำกำไรได้ 214 ล้านบาท ลดลง 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
TK มียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศเติบโตขึ้น 2.4% สวนทางกับยอดขายของตลาดในประเทศที่หดตัวลง 1.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อนับรวมสินเชื่อเช่าซื้อจากต่างประเทศด้วยแล้ว TK จะมียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ขยายตัวขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา ยอดคงค้างสินเชื่อสุทธิรวม ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 อยู่ที่ 9,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากสิ้นปี 2560 ลูกหนี้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยังคงเติบโตดี ในขณะที่ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ลดลง 15.8% ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่จะไม่แข่งขันด้านราคา ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของลูกหนี้สินเชื่อของกลุ่มไว้ที่ 10% ในปี 61