นายยุทธ กล่าวอีกว่า ภายในเดือนก.ย.61 โรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่นโครงการ Kurihara 1 ขนาดกำลังการผลิต 11.68 เมกะวัตต์ (MW) จะเริ่มจำหน่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) และเตรียม COD โรงไฟฟ้า Shichikashuku 1-2 อีก 4.4 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน SSUT และ PPTC ขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปีด้วย นอกจากนี้ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟท็อปในไทยกำลังการผลิตรวม 30.50 เมกะวัตต์
"แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตเกิน 40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรคาดว่าจะเติบโตแบบทวีคูณ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์"นายยุทธ กล่าว
สำหรับแนวโน้มในปี 62 บริษัทคาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ครบ 435.50 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน SSUT และ PPTC ขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟท็อป 75.50 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ในประเทศ 24 เมกะวัตต์ ในญี่ปุ่น 45 เมกะวัตต์ และโซลาร์รูฟท็อป 6.5 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ยังไม่รวมโครงการต่าง ๆ ที่กำลังศึกษาการลงทุนเพิ่มเติมด้วย