นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 61 เติบโต 7% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายรวม 530.96 ล้านบาท โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ประเภทถุงพลาสติกในชีวิตประจำวัน โดยคาดว่ารายได้จากผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก ได้แก่ ถุงบรรจุอาหารประเภท Polypropylene (PP) และถุงบรรจุอาหารและถุงหิ้วประเภท High Density Polypropylene (HDPE) จะเติบโตที่ระดับ 10% จากปีก่อน และรายได้จากผลิตภัณฑ์ฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร หรือ Polyvinyl Chloride (PVC) ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ Vow Wrap จะเติบโต 15% จากปีก่อน
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตกลุ่มถุงพลาสติกประมาณ 850 ตันต่อเดือน โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 85-90% และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหารอยู่ที่ 120 ตันต่อปี โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 50-60%
นายธีระชัย กล่าวว่า พอใจกับราคาหุ้นที่เทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก ที่ราคาหุ้นเปิดตลาดอยู่ที่ 3.02 บาท เพิ่มขึ้น 104% จากราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 1.48 บาท มองว่ามาจากการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจากบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ลงทุนในโรงงานซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่รองรับแล้ว และเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมถุงพลาสติกในประเทศมีการเติบโตประมาณ 5-10% ในปี 61 จากมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทในปี 60 จากการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้ประชาชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นไปด้วย รวมทั้งการเติบโตของร้านค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่ง ซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งขยายตัวและมีการก่อสร้างในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ร้านค้าเหล่านี้จะมีความต้องการใช้ถุงพลาสติกที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ในส่วนของสินค้าแช่แข็งที่แนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น และในส่วนของอาหารสำเร็จรูปที่ผู้จำหน่ายจะเน้นคุณภาพ ความสดความสะอาด ซึ่งจะต้องมีการบรรจุในผลิตภัณฑ์ที่ทำเพื่ออาหารโดยเฉพาะ เป็นต้น จากการเติบโตของอุตสาหกรรมที่กล่าวข้างต้น จะส่งผลทำให้ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านนายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เออีซี (AEC) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการ การจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า การเข้าซื้อขายใน mai ของ TPLAS ในวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่ทันสมัย
อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุนเพียง 0.4 เท่า แบะ หนี้ในปัจจุบันมีเพียงหนี้ทางการค้า และหนี้ระยะยาวเหลือเพียงเล็กน้อย และวัตถุประสงค์ในการระดมทุนก็เพียงพอใช้ในการก่อสร้างโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยเสริมความแข็งแร่งของผลการดำเนินงานได้มากยิ่งขึ้น