นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เนอวานา ไดอิ (NVD) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับไดวะ เฮ้าส์ จากญี่ปุ่น ฝ่ายละ 49:49 พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ ภายใต้แบรนด์ เนอวานา บียอนด์ (Nirvana Beyond) บนทำเลถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ฝั่งกรุงเทพตะวันออก บนพื้นที่ 27 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 2.6 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ธ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะเริ่มโอนโครงการในช่วงไตรมาส 2/62 และจะโอนครบทั้งหมดในช่วงปลายปี 63
โครงการเนอวานา บียอนด์ กรุงเทพกรีฑา ยังถือเป็นโครงการนำร่องของแผนพัฒนาเมืองใหม่ มูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านบาท บนนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่ทางบริษัทเนอวานา ไดอิ มีแลนด์แบงก์ถึง 250 ไร่ ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ด้วยคอนเซ็ปต์สมาร์ทซิตี้ (Smart City Concept) โดยโครงการสมาร์ทซิตี้ดังกล่าวจะประกอบไปด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่าและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หลีกหนีความแออัดจากในเมือง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ ที่มีครอบครัว มองหาบ้านที่ทันสมัย ซึ่งโครงการมีบ้านเดี่ยวทั้งสิ้น 85 หลัง ราคาขาย 20-50 ล้านบาท และมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 300-470 ตารางเมตร
พร้อมกันนี้วางเป้าหมาย 5 ปี (ปี 62-66) จะพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่สมาร์ทซิตี้ จำนวนทั้งสิ้น 11 โครงการ แบ่งเป็น โครงการเพื่ออยู่อาศัย 8-9 โครงการ และอาคารสำนักงาน คอนมูนิตี้มอลล์ และพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ เช่น เอาท์เล็ท มอลล์ ซึ่งพันธมิตรกลุ่มไดวะ เฮ้าส์ มีความชำนาญในการพัฒนา
"เรามองเห็นโอกาสและศักยภาพของถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ จึงร่วมมือกับไดวะ เฮ้าส์ พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ ภายใต้แบรนด์ เนอวานา บียอนด์ บนสุดยอดทำเลแห่งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่หลีกหนีจากความแออัดจากในเมือง...ทำเลนี้เริ่มมีมูลค่าสูงขึ้น และเป็นที่สนใจของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาจับจองที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการ รวมถึงเนอวานา ไดอิ"นายศรศักดิ์ กล่าว
นายศรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการเนอวานา บียอนด์ อุดรธานี โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มูลค่า 1 พันล้านบาท จำนวน 40 ยูนิต ราคา 25-50 ล้านบาท โดยจะร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของที่ดิน พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้รับสร้างบ้าน และพัฒนาสาธารณูปโภค ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นคนที่มีรายได้ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าการพัฒนาโครงการในลักษณะการร่วมกับเจ้าของที่ดินจะมีเพิ่มมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด คาดว่าในปี 62 จะเห็นในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 โครงการ และต่างจังหวัด 1 โครงการ มูลค่ารวม 2-3 พันล้านบาท ประกอบกับโครงการที่จะพัฒนาเองในปีหน้า เบื้องต้นจะมีจำนวน 4 โครงการ ซึ่งจะอยู่ในพื้นที่สมาร์ทซิตี้ 2 โครงการ
นอกจากโครงการบ้านเดี่ยวดังกล่าว บริษัทก็อยู่ระหว่างการพิจารณาเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 1 พันล้านบาท คาดเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 4/61 โดยบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโต 20-30% จากการรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 3 พันล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ 3 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้เกินเป้าหมายที่บริษัทตั้งเอาไว้แล้ว