นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ แต่เมื่อดัชนีฯย่อตัวลงมาแถว 1,680 จุด ก็มีลุ้นรีบาวด์ได้ เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียขณะนี้เริ่มรีบาวด์กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว หลังจากที่ค่าเงินอินโดนีเซียเช้านี้แข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อย และตลาดหุ้นอินโดนีเซียเริ่มทรงตัวได้
ทั้งนี้ ตลาดฯคงจะมี Upside จำกัดอยู่ เนื่องจากยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้ และในปลายสัปดาห์ก็ต้องติดตามเรื่องสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างไร หลังจากที่เสร็จสิ้นการทำประชาพิจารณ์แล้ว
พร้อมให้แนวรับ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,695-1,700 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ก.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,974.99 จุด เพิ่มขึ้น 22.51 จุด (+0.09%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,995.17 จุด ลดลง 96.07 จุด (-1.19%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.60 จุด ลดลง 8.12 จุด (-0.28%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 121.86 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 174.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 21.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.97 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.32 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 37.13 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ย.61) 1,686.37 จุด ลดลง 28.04 จุด (-1.64%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,233.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ก.ย.61) ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.15 ดอลลาร์ หรือเกือบ 1.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ย.61) ที่ 7.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.77 กลับมาแข็งค่าจากวานนี้ มองกรอบวันนี้ 32.70-32.85 จับตาตลาดหุ้นไทยหลังร่วงแรง
- กบง.ใช้เงินกองทุนน้ำมัน 8 พันล้านบาท อุ้มราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และตรึงแอลพีจีขนาดถัง 15 ก.ก.ไว้ที่ 363 บาทต่อเนื่องถึงสิ้นปี ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบไม่เกิน 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประเดิมวันนี้ควักเงินกองทุน 15 สตางค์ต่อลิตร อุ้มดีเซลขณะที่แผนพีดีพีฉบับใหม่ ยันรักษาต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 3.60 บาทต่อหน่วย
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2561 ได้เร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ 10 เขตเศรษฐกิจให้เป็นตามแผน คือแล้วเสร็จในปี 2562-2563 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ในพื้นที่ดังกล่าว
- ที่ประชุม กสทช.มีมติให้สำนักงาน กสทช. จัดทำแผนการเปิดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์รอบใหม่ เพื่อจัดประมูลภายในปี 2561 และทบทวนหลักเกณฑ์การประมูล อาทิ การจัดทำแนวป้องกันคลื่นความถี่รบกวนของคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ โดยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจัดทำแนวป้องกันคลื่นความถี่ด้วยตนเอง ไม่ใช่แค่ผู้ชนะการประมูลเท่านั้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 29 บาท คาดกำไร Q3/61 โตแข็งแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y จากโรคระบาดที่ลากยาวตามฤดูฝน และการควบคุมต้นทุนที่ทำได้ดีมากมาตั้งแต่ H2/60 ส่วนการเติบโตระยะยาวจะได้แรงหนุนจากสัดส่วนกลุ่มประกันที่เพิ่มขึ้น เพราะมีความได้เปรียบด้านสาขาที่กระจายทั่วประเทศ ขณะที่ Center of Excellent จะช่วยยกระดับอัตรากำไรจากการเป็นผู้นำรักษาโรคซับซ้อน โดยคาดจะหนุนให้กำไรปกติปี 2561-2563 โตเฉลี่ย 16% ต่อปี
- EPG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 9.6 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และเป็นหุ้นที่ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และค่าเงินบาทอ่อนค่า
- GULF (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 16.25 บาท ช่วง Q3/61 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ หลังได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น บวกกับ โรงไฟฟ้า GULF BL (126.8MW) เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ COD ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. บวกกับการรับรู้รายได้ต่อเนื่องของโรงไฟฟ้าซึ่งมีกำลังผลิตรวมกว่า 4,000 MW คาดหนุนปี 61 กำไรโต 18.3%YoY + Upside 12.5%YoY