นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า การที่ก.ล.ต.มีคำสั่งให้นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ พ้นจากการเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ของบมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) แต่ยังสามารถทำงานในบริษัทย่อยของ IFEC ได้นั้น ทางสำนักงานก.ล.ต.ไม่มีอำนาจควบคุมในเรื่องนี้ เนื่องจากอำนาจภายใต้พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์ สามารถดูแลได้เพียงบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เท่านั้น ซึ่งต้องให้คณะกรรมการบริษัทชุดใหม่และการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเข้ามาดำเนินการต่อไป
"ในระยะยาวถ้าจะให้ก.ล.ต.มีอำนาจตรวจสอบความผิดในบริษัทลูกได้ต้องมีการแก้กฎหมาย แต่ต้องผ่านหลายกระบวนการ แต่มองว่าไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายเพิ่ม เพราะอำนาจในบริษัทลูกก็คือผู้ถือหุ้นในบริษัทแม่" นายรพี กล่าว
นายรพี กล่าวด้วยว่า สำหรับการที่เจ้าหนี้ IFEC ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการนั้น ก็เป็นหน้าที่ของผู้ถือหุ้นที่ต้องดำเนินการคัดค้าน หากไม่เห็นด้วย และต้องมีการจัดประชุมต่อเนื่องไป ซึ่งสำนักงานก.ล.ต.ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดราย นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ กรณีใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น IFEC ด้วยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราโทษสูงสุดตามกฎหมาย พร้อมรายงานการดำเนินการดังกล่าวไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป พร้อมกับมีคำสั่งให้นายศุภนันท์ พ้นจากการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของ IFEC และไม่สามารถดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนแห่งอื่น (ถ้ามี) เป็นเวลา 2 ปีนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.61 เป็นต้นไป