นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายงวดบัญชีปี 61/62 (ก.ค.61-มิ.ย.62) เติบโตที่ระดับ 5% จากการเปิดแบรนด์ใหม่และเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยบริษัทมีแผนการเปิดแบรนด์ UP ในช่วงปลายเดือนต.ค. ถึงต้นเดือนพ.ย.61 ซึ่งมีช่องทางการจัดจำหน่ายในร้าน Mc บางสาขา, การเปิดจุดขาย, และช่องทางออนไลน์ โดยบริษัทวางเป้ายอดขายจากแบรนด์ UP ไว้ที่ 50 ล้านบาท และวางงบสำหรับการทำการตลาดไว้ที่ 5 ล้านบาท
ประกอบกับบริษัทเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายสินค้าออนไลน์ไว้ที่ 150 ล้านบาท ซึ่งมีการวางงบลงทุนราว 20 ล้านบาท ใช้ทยอยลงทุนเพื่อรวมช่องทางออนไลน์กับระบบสมาชิกหน้าร้านเข้าด้วยกัน ซึ่งมองว่าจะทำให้บริษัทสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและจัดกิจกรรมได้มากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าฐานสมาชิก "Mc Club" สิ้นธ.ค.62 แตะ 1 ล้านราย จากสิ้นปีนี้มั่นใจทำได้กว่า 5 แสนราย โดยปัจจุบันมีฐานสมาชิกบัตรแล้ว 4.5 แสนราย
ขณะเดียวกันบริษัทวางงบลงทุนงวดบัญชีปี 61/62 ไว้ที่ 80-100 ล้านบาท เพื่อขยายสาขารวม 40 สาขา แบ่งเป็น ร้าน Mc Shop 20 สาขา และร้านอีก McMc 20 สาขา ซึ่งเน้นทำเลที่ตั้งตามห้างสรรพสินค้าในอำเภอใหญ่ของจังหวัดเมืองรอง, สถานีบริการน้ำมัน และอาคารพาณิชย์ในชุมชน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 894 สาขา
"บริษัทมั่นใจการไปแบบกระจาย มีการตอบรับดี และมีฐานลูกค้าเหนียวแน่นทั่วประเทศ พร้อมทำให้ร้านค้ามีความแตกต่างอย่างยั่งยืน สินค้าตรงกับผู้บริโภคแต่ละที่ ปัจจุบันอยู่ในช่วงการจัดร้านใหม่ให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่ดีที่สุด"นายบัณฑิต กล่าว
นอกจากนี้บริษัทมีแผนชะลอการลงทุนขยายสาขาในต่างประเทศ หลังจะมุ่งเน้นการเติบโตในประเทศเป็นหลัก จากแผนการพัฒนาสาขาเพื่อสร้างความเข้มแข็งของแบรนด์ให้ชัดเจน และจัดกิจกรรมทางการตลาดให้มากขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทมีแผนการเปิดสาขาในสปป.ลาวเพิ่ม 2 แห่ง และยังสนใจในการขยายสาขาไปยังมาเลเซียด้วย
สำหรับธุรกิจ Skin Care บริษัทต้องชะลอการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไปเป็นปลายปี 61 จากเดิมคาดว่าจะมีการเปิดตัวกลางปีนี้ ขณะเดียวกันคาดว่ายอดขายปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงกับปี 60 (1 ม.ค.-31 ธ.ค.) ที่ระดับ 40 ล้านบาท โดยมีแผนขยายจุดขายเพิ่ม 1 แห่งในเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจาก Mc Shop 60%, ร้านค้าปลีก 30% ,ออนไลน์และอื่น ๆ อีก 10%
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการซื้อหุ้นคืน มองว่าทางคณะผู้บริหารอยากสร้างความเชื่อมั่นจากที่สามารถผ่านวิกฤตปี 60 มาได้ โดยคาดว่าในอีก 1 ปีข้างหน้า จะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผน รวมถึงเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินเพื่อรองรับแผนการลงทุนต่อไปในอนาคต โดยมองว่าปัจจุบันราคาหุ้น MC ไม่สูงมากนักจากความผันผวนของผลตอบแทน อย่างไรก็ดี บริษัทยังมุ่งเน้นในการบริหารให้มีผลประกอบการที่ดีและมีเสถียรภาพ